ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มเล็กน้อย หลังโอเปกปรับลดกำลังการผลิตตามข้องตกลงกว่า 90%
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มเล็กน้อย หลัง IEA เผยประเทศกลุ่มโอเปกปรับลดกำลังการผลิตตามข้องตกลงกว่า 90%
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังตลาดได้รับแรงหนุนจากการดำเนินการตามข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) โดยสำนักงานพลังงานสากล (IEA) รายงานว่า กลุ่มประเทศโอเปกได้ให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงถึงร้อยละ 90 มากกว่าผลการสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) ที่ระดับร้อยละ 88
- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.พ. 60 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 59 ขณะที่บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ รายงาน จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ก.พ. 60 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 แท่น สู่ระดับ 602 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.58
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงาน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค. 60 ปรับตัวขึ้นร้อยละ 1.8 สอดคล้องกับการคาดการณ์ โดยมีสาเหตุหลักจากปริมาณยอดสั่งซื้อสินค้าในภาคการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีดังกล่าวนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการบริโภคภาคเอกชนของสหรัฐฯ มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น
- ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending home sales) ในเดือน ม.ค. 60 ปรับตัวลดลงร้อยละ 2.8 สวนทางกับที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 1.1 เนื่องจากแรงกดดันของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นทั้งนี้ ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายนับเป็นมาตรวัดถึงจำนวนยอดขายบ้านในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ดังนั้น การปรับลดลงของดัชนีดังกล่าวจึงนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าจำนวนยอดขายบ้านในเดือน ก.พ.-มี.ค. มีแนวโน้มลดลงซึ่งสะท้อนถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ ที่หดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงกดดันของปริมาณอุปทานทีล้นตลาด ประกอบกับอุปสงค์จากประเทศจีนที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงเทสกาลตรุษจีน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากประเทศศรีลังกาและอิโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนในเดือน ม.ค. 60 ที่ปรับลดลงร้อยละ 45.9
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 51-56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 53-58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกคาดว่าจะปรับลดลง เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ผลิตจะทำตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต หลังนายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มโอเปก เผยว่าผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มจะให้ความร่วมมือในการลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ แหล่งข่าวของโอเปกยังเผยอีกว่า ล่าสุดผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกทั้ง 11 ประเทศให้ความร่วมมือลดกำลังลงราว 60% ของข้อตกลง
ข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตยังมีความเสี่ยงจากกำลังการผลิตของอิหร่านที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากอิหร่านเร่งผลิตน้ำมันดิบเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดหลังได้รับการยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยล่าสุดนาย Ali Kardor ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทน้ำมันแห่งชาติอิหร่าน (NIOC) กล่าวว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของอิหร่านจะปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในเดือนเม.ย. 60 และมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตไปสู่ระดับ 4.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในอีก 5 ปีข้างหน้า
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น หลัง EIA คาดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในเดือนมี.ค. มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นราว 0.03 ล้านบาร์เรลต่อวัน แตะระดับ 8.91 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับระดับการผลิตในเดือนก.พ. และจะขยับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 9.28 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธ.ค. 60
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังตลาดได้รับแรงหนุนจากการดำเนินการตามข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) โดยสำนักงานพลังงานสากล (IEA) รายงานว่า กลุ่มประเทศโอเปกได้ให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงถึงร้อยละ 90 มากกว่าผลการสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) ที่ระดับร้อยละ 88
- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.พ. 60 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 9 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 59 ขณะที่บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ รายงาน จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ก.พ. 60 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 แท่น สู่ระดับ 602 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.58
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงาน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค. 60 ปรับตัวขึ้นร้อยละ 1.8 สอดคล้องกับการคาดการณ์ โดยมีสาเหตุหลักจากปริมาณยอดสั่งซื้อสินค้าในภาคการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนีดังกล่าวนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าการบริโภคภาคเอกชนของสหรัฐฯ มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น
- ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending home sales) ในเดือน ม.ค. 60 ปรับตัวลดลงร้อยละ 2.8 สวนทางกับที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 1.1 เนื่องจากแรงกดดันของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นทั้งนี้ ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายนับเป็นมาตรวัดถึงจำนวนยอดขายบ้านในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ดังนั้น การปรับลดลงของดัชนีดังกล่าวจึงนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าจำนวนยอดขายบ้านในเดือน ก.พ.-มี.ค. มีแนวโน้มลดลงซึ่งสะท้อนถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฯ ที่หดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงกดดันของปริมาณอุปทานทีล้นตลาด ประกอบกับอุปสงค์จากประเทศจีนที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงเทสกาลตรุษจีน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานในภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์จากประเทศศรีลังกาและอิโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังมีแรงหนุนจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของจีนในเดือน ม.ค. 60 ที่ปรับลดลงร้อยละ 45.9
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 51-56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 53-58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกคาดว่าจะปรับลดลง เนื่องจากมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้ผลิตจะทำตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต หลังนายโมฮัมเหม็ด บาร์คินโด เลขาธิการกลุ่มโอเปก เผยว่าผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มจะให้ความร่วมมือในการลดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ แหล่งข่าวของโอเปกยังเผยอีกว่า ล่าสุดผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกทั้ง 11 ประเทศให้ความร่วมมือลดกำลังลงราว 60% ของข้อตกลง
ข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตยังมีความเสี่ยงจากกำลังการผลิตของอิหร่านที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากอิหร่านเร่งผลิตน้ำมันดิบเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดหลังได้รับการยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ โดยล่าสุดนาย Ali Kardor ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทน้ำมันแห่งชาติอิหร่าน (NIOC) กล่าวว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของอิหร่านจะปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในเดือนเม.ย. 60 และมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณการผลิตไปสู่ระดับ 4.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในอีก 5 ปีข้างหน้า
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น หลัง EIA คาดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ ในเดือนมี.ค. มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นราว 0.03 ล้านบาร์เรลต่อวัน แตะระดับ 8.91 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับระดับการผลิตในเดือนก.พ. และจะขยับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 9.28 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธ.ค. 60
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์