ซูซูกิ สวิฟท์ อาร์เอ็กซ์2 ปรับครั้งสุดท้าย...ใส่ให้เต็มที่

28 ก.พ. 2560 | 12:00 น.
เปิดตัวครั้งแรกต้นปี 2555 “สวิฟท์” ได้สร้างความตื่นเต้นแตกต่าง บนมาตรฐานใหม่ของอีโคคาร์ ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่น สมรรถนะการขับขี่ดีเกินตัว ราคาเข้าถึงได้ง่าย พร้อมสร้างกระแสการรับรู้ในวงกว้าง(เมื่อเทียบกับการเป็นรถยนต์แบรนด์เล็ก) ซึ่งถือเป็นการปักธงธุรกิจซูซูกิยุคใหม่ในเมืองไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ผ่านไป 5 ปี แม้ยอดขายจะเริ่มทรงตัวและลดลงตามอายุการทำตลาด (ปีที่แล้วขายได้ 8,000 คัน ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ 6,500 คัน) ด้วยคาดว่ารุ่นใหม่โมเดลเชนจ์จะเปิดตัวต้นปีหน้า ดังนั้น “สวิฟท์ อาร์เอ็กซ์2” (Swift RX-II) น่าจะเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษครั้งสุดท้ายของโมเดลนี้ครับ

สวิฟท์ เคยเปิดตัวรุ่นตกแต่งพิเศษมาแล้ว 4 ครั้ง ไล่ตั้งแต่ปี 2556 กับ “สวิฟท์ เอเนอร์จี กรีน ลิมิเต็ด คัลเลอร์” (ตัวถังสีเขียว) ปี 2557 เป็น “สวิฟท์ จีแอลเอ็กซ์ ลิมิเต็ด” ที่เล่นแถบสีคาดตัวถัง จากนั้นปี 2558 เปิดตัว “อาร์เอ็กซ์” เวอร์ชันแรก ล่าสุดปีที่แล้ว ส่งรุ่น “ไซ” สีเขียวมังคุดลุยตลาด

MP37-3239-G สำหรับสวิฟท์ อาร์เอ็กซ์ 2 เหมือนจับเอา“โน่นนี่นั่น”ของ “อาร์เอ็กซ์” ตัวเดิม กับ “ไซ” มาผสมกัน ไล่ตั้งแต่ ชุดไฟหน้าหลอดซีนอนควบคุมลำแสงด้วยโปรเจ็กเตอร์เลนส์ สามารถปรับระดับได้อัตโนมัติ (เลนส์ควบคุมลำแสงสามารถกดองศาลงต่ำได้ หากด้านหลังมีบรรทุกเยอะจนรถหน้าเชิด ซึ่งไฟอาจจะส่องสูงไปแยกสายตารถชาวบ้านที่สวนมา) พร้อมเพิ่มไฟ LED วางเข้ามุมกับเบ้าไฟตัดหมอก และสปอยเลอร์หลังคาสไตล์สปอร์ต เสาอากาศแบบชาร์กฟิน (ครีบปลาฉลาม) ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วสีเทาเข้ม (ซูซูกิเรียกว่าสี Gun Metalic) พร้อมชื่อสัญลักษณ์ RX-II แปะอยู่ประตูหลังเพื่อแสดงถึงความเป็นรุ่นพิเศษ

MP37-3239-C ด้านราคาขาย 5.99 แสนบาท เท่ากับรุ่น “ไซ” เมื่อปีที่แล้ว และเทียบกับรุ่นท็อป GLX ก็เพิ่มเงิน 35,000 บาท ซึ่งสวิฟท์ อาร์เอ็กซ์ 2 นอกจากจะได้ออปชันที่กล่าวมาด้านบนแล้ว ยังมีแพดเดิลชิฟต์และครูสคอนโทรลติดมาด้วย
ส่วนการขับขี่ สวิฟท์ยังยอดเยี่ยมเรื่องการควบคุมและช่วงล่าง พวงมาลัยน้ำหนักกำลังดีมีความแม่นยำ ให้ความคล่องตัวยามขับในเมืองความเร็วต่ำ หรือวิ่งทางไกลใช้ความเร็ว 100-120 กม./ชม.ให้ความมั่นใจ

การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารอยู่ในระดับพอใช้ หรือได้ยินชัดเจนที่สุดน่าจะเป็นเสียงจากพื้นถนน ส่วนเบาะนั่งเป็นวัสดุแบบผ้าออกแบบลวดลายใหม่ขนาดรับกับสรีระ ทว่าผมอยากให้ตำแหน่งเบาะสามารถปรับต่ำลงได้มากกว่านี้ ซึ่งจะว่าไปในตำแหน่งนั่งผู้ขับถือว่าแน่นสำหรับคนตัวสูงประมาณ 180 ซม.

MP37-3239-B เครื่องยนต์เบนซิน K12B แบบ 4 สูบ ขนาด 1.25 ลิตร วาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดี-ไอเสีย 91 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ตอบสนองช่วงออกตัวได้ดีครับ แต่แรงจะหย่อนลงไปช่วงความเร็วกลางๆ อัตราเร่งในย่าน 40-80 กม./ชม. อุ้ยอ้ายไปนิด (การทดสอบนั่ง 3 คน)

อย่างไรก็ตาม ซูซูกิแก้ไขความคาดหวังตรงนี้ด้วย “แพดเดิลชิฟต์” ให้คนขับเลือกเล่นเปลี่ยนเกียร์เอง ดังนั้นช่วงจะเร่งแซงกะทันหัน ใช้มือซ้ายตบเกียร์ลงมาสัก 1-2 ตำแหน่ง ช่วยรีดเร้นเข่นพลังได้ทันใจมากขึ้น ด้านอัตราบริโภคน้ำมัน จากการขับทางไกลใช้ความเร็ว 100-120 กม./ชม. เห็นตัวเลขแสดงอยู่ 16 กม./ลิตร สำหรับสวิฟท์ อาร์เอ็กซ์ 2 จะเริ่มลงโชว์รูมรถยนต์ซูซูกิ 104 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมนี้ครับ

MP37-3239-F รวบรัดตัดความ...ผ่านไป 5 ปี สวิฟท์ อีโคคาร์ มียอดขายสะสมกว่า 8 หมื่นคัน (ไม่รวมรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรที่นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย) เป็นรถที่มีคาแรกเตอร์โดดเด่น บ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้เป็นเจ้าของชัดเจน หรือซื้อมาแล้วยังสรรหาอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติม ขณะที่ “อาร์เอ็กซ์ 2” จัดเต็มมาจากโรงงาน และน่าจะเป็นลิมิเต็ดอิดิชันรุ่นสุดท้ายของสวิฟท์โมเดลนี้ ซึ่งการจ่ายเพิ่มอีก 35,000 บาทถือว่าคุ้มกับออพชัน เรียกว่าได้เท่และจัดไฟแนนซ์ทีเดียวจบครับ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,239
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม พ.ศ. 2560