MGC-ASIA แต่งตัวเข้าตลาดหุ้น สยายปีกอาเซียนสู่เป้า5หมื่นล้าน
กลุ่มธุรกิจยานยนต์สัญชาติไทย มาสเตอร์กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ “เอ็มจีซี-เอเชีย” ใส่เกียร์เดินหน้าหลังปรับโครงสร้างใน 8 ธุรกิจให้มีความชัดเจน พร้อมดึงมือดีมากประสบการณ์มาช่วยเสริมศักยภาพการบริหารงานอย่างต่อเนื่อง โดยฟันเฟืองต่างๆเหล่านี้จะขยับขับเคลื่อนไปอย่างไร “ฐานฯยานยนต์” ร่วมสัมภาษณ์ “ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ”แม่ทัพใหญ่ของค่าย
รายได้รวมของกลุ่ม
ปี 2559 บริษัททำรายได้รวม 2 หมื่นล้านบาท ลดลง 5-7% เมื่อเทียบกับปี 2558 หรือเป็นไปตามสภาพตลาดรถยนต์ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจหลัก ขณะที่ยอดขายรวมทั้งนี้ โรลส์-รอยซ์ แอสตัน มาร์ติน บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ ฮอนด้า และนิสสัน มียอดขายรวมกันกว่า 8,500 คัน
แผนงานธุรกิจรถยนต์ใหม่
ปีนี้เรามีแบรนด์ “มาเซราติ” จากอิตาลีเพิ่มเข้ามาในพอร์ต ถือเป็นการเติมเต็มรถยนต์ในกลุ่มลัคชัวรี่ส์ เซ็กเมนต์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น นั่นเท่ากับว่าเรามีรถยนต์ขายครบทุกระดับราคาตั้งแต่ 5 แสนบาท(รถญี่ปุ่น)ไปจนถึง 50 ล้านบาท (โรลส์-รอยซ์) โดยตั้งเป้าขายรถยนต์ใหม่เอาไว้ที่ 1 หมื่นคัน เติบโต 15% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมาเซราติเตรียมเปิดตัวเอสยูวีรุ่นใหม่ “ลาวันเต้” (Lavante) ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2017
ขณะที่รถยนต์ระดับไฮลัคชัวรี่ส์สปอร์ต “แอสตัน มาร์ติน” ได้รับการตอบรับดีหลังจากที่ได้เปิดตัวแวนควิช เอส และรุ่นดีบี 11 ที่พร้อมส่งมอบแล้ว โดยรถยนต์ทั้ง 3 แบรนด์จะจัดกิจกรรมและสนับสนุนธุรกิจเรือยอร์ช “อะซิมุท” (Azimut)
ส่วนการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ ในนามบริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จำกัด ทั้ง 7 สาขา (กรุงเทพ 4 แห่ง , ต่างจังหวัด 3 แห่ง) และ 1 สตูดิโอ ได้เพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการให้บริการหลังการขายควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเพิ่มช่องทางในการนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้าซ่อมผ่านทางแอพพลิเคชั่นมือส่งผลให้การดำเนินงานในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตขึ้น 10%
การลงทุนใหม่
ต้นปีนี้จะเปิดให้บริการโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเมกกะโปรเจ็คอย่างเป็นทางการในนาม "เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต้เพล็กซ์ ภูเก็ต" ที่ประกอบด้วย โชว์รูม โรลส์-รอยซ์, แอสตัน มาร์ติน, เรือยอร์ชอะซิมุท , บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ, รถยนต์มือสอง, ศูนย์ซ่อมสีและตัวถังครบวงจร โดยโครงการดังกล่าวใช้งบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท และยังคงมีแผนลงทุนอย่างต่อเนื่องในปีนี้ด้วยเม็ดเงินกว่า 350 ล้านบาท สำหรับโครงการ "เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต้เพล็กซ์ หาดใหญ่" คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้
ขยายธุรกิจในอาเซียน
บริษัทมุ่งมั่นในการรุกขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนอย่างจริงจัง โดยกลุ่มธุรกิจรถเช่าภายใต้แบรนด์ ”ซิกท์” (SIXT) และฟลีท มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล ถือเป็นกลุ่มธุรกิจหลักในการขยายการลงทุนของเอ็มจีซี-เอเชีย สู่ภูมิภาคอาเซียน ซึ่งล่าสุดในปีที่ผ่านมา บริษัทฯประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการขยายการลงทุนสู่ประเทศเวียดนาม
แผนเข้าตลาดหลักทรัพย์
เราวางเป้าหมายในปี 2563 ว่าเอ็มจีซี-เอเชียจะทำรายได้รวมถึง 5 หมื่นล้านบาท จากการขยายธุรกิจ พร้อมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีความคืบหน้าเร็วๆนี้ ขณะเดียวกันยังมีแผนซื้อกิจการบริษัทในอาเซียนเพิ่มเติม แต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตาม กุญแจแห่งความสำเร็จที่จะทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายที่วางไว้คือ การรวมพลังของทุกกลุ่มธุรกิจและมีการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน รวมถึงการพัฒนาบุคลากร การฝึกอบรมพนักงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,239
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม พ.ศ. 2560
รายได้รวมของกลุ่ม
ปี 2559 บริษัททำรายได้รวม 2 หมื่นล้านบาท ลดลง 5-7% เมื่อเทียบกับปี 2558 หรือเป็นไปตามสภาพตลาดรถยนต์ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจหลัก ขณะที่ยอดขายรวมทั้งนี้ โรลส์-รอยซ์ แอสตัน มาร์ติน บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ ฮอนด้า และนิสสัน มียอดขายรวมกันกว่า 8,500 คัน
แผนงานธุรกิจรถยนต์ใหม่
ปีนี้เรามีแบรนด์ “มาเซราติ” จากอิตาลีเพิ่มเข้ามาในพอร์ต ถือเป็นการเติมเต็มรถยนต์ในกลุ่มลัคชัวรี่ส์ เซ็กเมนต์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น นั่นเท่ากับว่าเรามีรถยนต์ขายครบทุกระดับราคาตั้งแต่ 5 แสนบาท(รถญี่ปุ่น)ไปจนถึง 50 ล้านบาท (โรลส์-รอยซ์) โดยตั้งเป้าขายรถยนต์ใหม่เอาไว้ที่ 1 หมื่นคัน เติบโต 15% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมาเซราติเตรียมเปิดตัวเอสยูวีรุ่นใหม่ “ลาวันเต้” (Lavante) ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2017
ส่วนการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู และมินิ ในนามบริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จำกัด ทั้ง 7 สาขา (กรุงเทพ 4 แห่ง , ต่างจังหวัด 3 แห่ง) และ 1 สตูดิโอ ได้เพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการให้บริการหลังการขายควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเพิ่มช่องทางในการนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้าซ่อมผ่านทางแอพพลิเคชั่นมือส่งผลให้การดำเนินงานในปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตขึ้น 10%
การลงทุนใหม่
ต้นปีนี้จะเปิดให้บริการโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการเมกกะโปรเจ็คอย่างเป็นทางการในนาม "เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต้เพล็กซ์ ภูเก็ต" ที่ประกอบด้วย โชว์รูม โรลส์-รอยซ์, แอสตัน มาร์ติน, เรือยอร์ชอะซิมุท , บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ, รถยนต์มือสอง, ศูนย์ซ่อมสีและตัวถังครบวงจร โดยโครงการดังกล่าวใช้งบลงทุนกว่า 400 ล้านบาท และยังคงมีแผนลงทุนอย่างต่อเนื่องในปีนี้ด้วยเม็ดเงินกว่า 350 ล้านบาท สำหรับโครงการ "เอ็มจีซี-เอเชีย ออโต้เพล็กซ์ หาดใหญ่" คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้
ขยายธุรกิจในอาเซียน
บริษัทมุ่งมั่นในการรุกขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคอาเซียนอย่างจริงจัง โดยกลุ่มธุรกิจรถเช่าภายใต้แบรนด์ ”ซิกท์” (SIXT) และฟลีท มาสเตอร์ คาร์เร้นเทิล ถือเป็นกลุ่มธุรกิจหลักในการขยายการลงทุนของเอ็มจีซี-เอเชีย สู่ภูมิภาคอาเซียน ซึ่งล่าสุดในปีที่ผ่านมา บริษัทฯประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการขยายการลงทุนสู่ประเทศเวียดนาม
แผนเข้าตลาดหลักทรัพย์
เราวางเป้าหมายในปี 2563 ว่าเอ็มจีซี-เอเชียจะทำรายได้รวมถึง 5 หมื่นล้านบาท จากการขยายธุรกิจ พร้อมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีความคืบหน้าเร็วๆนี้ ขณะเดียวกันยังมีแผนซื้อกิจการบริษัทในอาเซียนเพิ่มเติม แต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ อย่างไรก็ตาม กุญแจแห่งความสำเร็จที่จะทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายที่วางไว้คือ การรวมพลังของทุกกลุ่มธุรกิจและมีการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน รวมถึงการพัฒนาบุคลากร การฝึกอบรมพนักงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,239
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม พ.ศ. 2560