'วรวรรณ' ฝากผลงาน 15 ปี บลจ.บัวหลวงฯปั้นกำไร 'หมื่นบาท' ทะลุพันล้าน

28 ก.พ. 2560 | 00:00 น.
[caption id="attachment_132056" align="aligncenter" width="503"] MP19-3239-A วรวรรณ ธาราภูมิ[/caption]

ถึงเวลาที่ "วรวรรณ ธาราภูมิ" ส่งไม้ต่อในการนำทัพองค์กรกับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวงฯ (BBLAM) ให้แก่ “พีรพงศ์ จิระเสวีจินดา” ลูกหม้อของบลจ.บัวหลวง ควบคู่เก้าอี้ประธานเจ้าหน้าที่สายการลงทุน มีผลตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560โดยคณะกรรมการบริษัทดัน “วรวรรณ” ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร เพื่อดูแลบริษัทในระดับนโยบายและให้คำแนะนำ CEO คนใหม่

ปฏิเสธไม่ได้ว่า “วรวรรณ” เสมือนเป็นโลโกของบลจ.บัวหลวงฯ หรือกองทุนบัวหลวงที่นักลงทุนรู้จักและชื่นชอบ โดยเฉพาะสังคมโซเชียล มีเดีย ที่กระแสแรงในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำให้อดีต CEO เป็นแม่เหล็กดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้ามาลงทุนในกองทุนบัวหลวงจนขนาดสินทรัพย์ (AUM) บริษัทเติบโตรวดเร็วขึ้นสู่แถวหน้าโดยเฉพาะช่วง 5 ปีหลัง ทำให้มูลค่าสินทรัพย์พุ่งขึ้นแตะ 7.46 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 ส่วนแบ่งการตลาด 12% อยู่อันดับ 4 ของอุตสาหกรรมและผลักดันกำไรสุทธิจากหมื่นล้านบาทในปี 2545 ที่มารับตำแหน่ง จนทะลุ 1,000 ล้านบาทในปี 2559

สิ่งที่เกิดขึ้นยังได้รับความร่วมมือจากทีมงานและทีมผู้จัดการกองทุนที่ทำผลงานบริหารกองทุนติดแถวหน้าและติดอันดับหนึ่ง จึงสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนด้วยฝีมือของCEO คนใหม่และทีมผู้จัดการกองทุน

 15 ปีบนภารกิจผู้นำ

“เข้ามาร่วมงานกับ บลจ.บัวหลวงฯ มาตั้งแต่ปี 2545 ตอนนั้น AUM อยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาทเป็นกองทุนที่ขายนักลงทุนทั่วไปแค่พันล้านบาท ขณะที่ บลจ.อื่นเติบโตไปแล้ว แต่เรายังไม่ขยับ”วรวรรณ กล่าว

โจทย์ตอนนั้น คือ การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้น ผู้ขายและลูกค้าและสิ่งที่เน้นมาตั้งแต่ต้นๆ คือ การสื่อสารให้คนขายและคนซื้อเข้าใจง่าย รวมถึงการให้ความรู้ต่อเนื่องผ่านช่องทางที่เหมาะสมในแต่ละช่วง และเมื่อหัวใจของธุรกิจ คือ ความเชื่อมั่นจึงต้องทำให้ลูกค้ากับสาธารณชนเชื่อมั่นด้วย โดยเกิดได้จากฝีมือในการบริหารกองทุน ระบบงานและปฏิบัติงานอยู่ในกรอบกฎหมายจริยธรรม

นอกจากนี้ตลอด 15 ปีจะไม่ตั้งเป้าหมายขนาดกองทุน (AUM) หรือกำไร เพราะจะทำให้การขายเพื่อเป้าและยัดเยียดผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าซึ่งอาจไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าจะลงทุน เพราะกองทุนที่ดีที่สุดไม่ใช่เหมาะกับทุกคนเป้าหมายของบริษัทคือการทำให้ลูกค้าประสบความสำเร็จในการวางแผนการเงินและการลงทุนจนในที่สุดลูกค้าก็มาลงทุน โดยเฉพาะลูกค้าที่มีการแนะนำหรือบอกต่อมีจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้เห็นภาพชัดขึ้นในปี 2555 ซึ่งเป็นปีแรกที่ประกาศธีมการลงทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนเข้าใจว่าเรามองอนาคตการลงทุนไปในทิศทางไหน

 เบบี้บูม สู่เจนX

วรวรรณ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สอดคล้องกับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี เพราะหากไม่รีบทำบริษัทจะล้าสมัย ดังนั้นหากบริษัทจะก้าวหน้า แม่ทัพก็ควรเป็นคนหนุ่มสาวในเจเนอเรชันหลังๆ ไม่ใช่เบบี้บูมขณะที่กลางปีนี้ตัวเองจะเข้าสู่ 62 ปี แต่ยังไม่รีบเกษียณ จะทำหน้าที่ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อตลาดทุน อุตสาหกรรมและสังคมในภาพที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งทำมากว่า 2 ปีแล้วและบลจ.บัวหลวงฯ ก็จะได้ผลพวงไปด้วย

“ตลอดเวลา 15 ปีในตำแหน่ง CEO สิ่งที่ภูมิใจที่สุดคือ ความสำเร็จทางการเงินของลูกค้า การสนับสนุน ความเข้าใจ กับการให้โอกาสเราทำตามความฝันจากผู้ถือหุ้นและทีมงานที่ทำให้เราทุกคนประสบความสำเร็จ ส่วนตัวรู้สึกภูมิใจที่มีส่วนสร้างบลจ.บัวหลวงฯ ให้มีที่ยืนที่มั่นคงในตลาดทุนและในหัวใจลูกค้า”

 รุกออนไลน์-ลงทุนไอที

สำหรับภารกิจของ CEO คนใหม่“พีรพงศ์ กล่าวว่า ยังคงเดินหน้าตามกลยุทธ์และพันธกิจของ บลจ.บัวหลวง ที่จะทำให้ครอบครัวคนไทยมีความมั่นคงทางการเงิน และรักษาความเป็นผู้นำในด้านต่างๆ ไว้ เช่น กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)

ส่วนโจทย์ที่ท้าทายหลังจากนี้ คือ การหาผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนตอบโจทย์ผู้ลงทุนให้มากขึ้น ทั้งในแง่ของการสร้างผลตอบแทนและการกระจายความเสี่ยงตามธีมการลงทุนที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วง โดยปีนี้จะลงทุนพัฒนาด้านเทคโนโลยีพัฒนาช่องทางขายออนไลน์B-channel เป็นแอพพลิเคชั นพัฒนาระบบให้คำ แนะนำ(Robo-Advisor) คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปีนี้ พร้อมลงทุนระบบเพื่อเตรียมพร้อมออกกองทุนเฮดจ์ฟันด์ และ Absolute Return Fund เมื่อทางการ อนุญาตรวมถึงงบพัฒนาบุคลากรซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักขององค์กร

สำหรับเป้าหมายในปีนี้คาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมที่ระดับ 8-10% หรือมี AUM ขึ้นมาอยู่ระดับ 8.2 แสนล้านบาท จาก 7.46 แสนล้านบาทในปีที่ผ่านมา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,239
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม พ.ศ. 2560