‘สุชัชวีร์’ ชี้ระบบคัดเลือกนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยแบบใหม่แก้ปัญหากั๊กที่เรียน

20 ก.พ. 2560 | 06:39 น.
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 - ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สจล. และประธานที่ประชุม ทปอ. ย้ำระบบการคัดเลือกนักศึกษาเข้ามหาวิทยาลัยแบบใหม่ ช่วยแก้ปัญหาการกั๊กที่เรียนและเพิ่มความเสมอภาคทางการศึกษา ด้วยหลักการ 3 ข้อ คือ 1. นักเรียนควรอยู่ในห้องเรียนจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2. นักเรียนแต่ละคนมีเพียง 1 สิทธิ์ ในการตอบรับสาขาวิชาที่เลือกเพื่อความเสมอภาค และ 3.สถาบันอุดมศึกษาในเครือข่าย ทปอ. ทุกแห่ง จะเข้าระบบเคลียริ่งเฮาส์เพื่อบริหาร 1 สิทธิ์ของนักเรียน

ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ทปอ. ได้พิจารณาร่วมกันในการปรับกระบวนการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาแบบใหม่ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 เป็นต้นไป ด้วยหลักการ ดังนี้ 1. นักเรียนควรอยู่ในห้องเรียนจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  2. นักเรียนแต่ละคนมีเพียง 1 สิทธิ์ ในการตอบรับสาขาวิชาที่เลือกเพื่อความเสมอภาค และ 3.สถาบันอุดมศึกษาในเครือข่าย ทปอ. ทุกแห่ง จะเข้าระบบเคลียริ่งเฮาส์เพื่อบริหาร 1 สิทธิ์ของนักเรียน โดยการรับสมัครมีทั้งสิ้น 5 รอบ คือ

1. การรับนักเรียนโดยใช้แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ไม่มีการสอบข้อเขียน สำหรับนักเรียนทั่วไป นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ นักเรียนโควตา นักเรียนเครือข่าย โดยให้ยื่นสมัครโดยตรงกับสถาบันอุดมศึกษา   2. การรับนักศึกษาระบบโควตาที่มีการสอบข้อเขียนหรือสอบปฏิบัติ สำหรับนักเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่หรือภาคโควตาโรงเรียนในเครือข่าย และโครงการความสามารถพิเศษต่างๆ สถาบันการศึกษาประกาศเกณฑ์การสอบ ให้นักเรียนยื่นสมัครโดยตรงกับสถาบันอุดมศึกษาและเข้ารับการคัดเลือกตามเกณฑ์การสอบ

3. การรับสมัครนักศึกษารับตรงรวมกัน สำหรับนักเรียนในโครงการ กสพท. โครงการอื่นๆ และนักเรียนทั่วไป ทปอ. เป็นหน่วยกลางในการรับสมัคร นักเรียนเลือกได้ 4 สาขาวิชา โดยไม่มีลำดับ สถาบันอุดมศึกษาจัดให้มีการสอบกลางร่วมกันในเวลาเดียวกัน แต่ละสถาบันกำหนดเกณฑ์ที่เป็นอิสระของตนเอง  4. การรับสมัคร Admissions โดยใช้เกณฑ์แต่ละสาขาเหมือนกันหมด สำหรับนักเรียนทั่วไป โดย ทปอ. เป็นหน่วยกลางในการรับสมัคร สามารถเลือกได้ 4 สาขาวิชา แบบมีลำดับ โดยใช้เกณฑ์ค่าน้ำหนักตามที่ประกาศไว้ล่วงหน้า 3 ปี และ 5. การรับตรงอิสระ สถาบันอุดมศึกษารับโดยตรงด้วยวิธีการของสถาบันเอง

การเปลี่ยนแปลงระบบคัดเลือกบุคคลากรเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาครั้งนี้ จะทำให้นักเรียนไม่ต้องวิ่งรอกสอบ ไม่เป็นภาระเรื่องค่าใช้จ่าย ลดความเครียด เพราะในแต่ละรอบจะมีการนำรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าระบบเคลียริ่งเฮาส์ ซึ่งผู้ที่ผ่านการคัดเลือกและต้องการเข้าศึกษาและจะถูกตัดสิทธิ์ในรอบต่อไป แต่หากต้องการเข้าร่วมในรอบถัดไปต้องสละสิทธิ์เดิมเสียก่อน เพื่อเป็นคืนสิทธิ์ให้กับผู้อื่น ทั้งนี้ การใช้สัดส่วนคะแนน GPAX, ONET, GAT, PAT จะยังคงเป็นไปตามประกาศล่วงหน้า 3 ปี คือในปีการศึกษา 2560 – 2562 และสำหรับนักศึกษานานาชาติก็ต้องนำเข้าระบบเคลียริ่งเฮาส์เช่นกัน