นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ปี 2559 ว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปส่งผลให้สินเชื่อขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง และคุณภาพสินเชื่อด้อยลงต่อเนื่อง ระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีความมั่นคง มีเงินสำรองและเงินกองทุนอยู่ในระดับสูง รวมทั้งมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากการบริหารพอร์ตเงินฝากโดยมีรายละเอียดดังนี้
ภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป กอปรกับธุรกิจหันไประดมทุนผ่านตราสารหนี้และหุ้นเพิ่มขึ้นในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลให้สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 2 ในปี 2559 ซึ่งชะลอลงจากปี2558 ที่ขยายตัวร้อยละ 4.3 อย่างไรก็ดีในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 สินเชื่อในบางธุรกิจขยายตัวดีขึ้น เช่น ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารผลิตผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก พาณิชย์ และสาธารณูปโภค สำหรับสินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัวดีขึ้นโดยเฉพาะในไตรมาสสุดท้ายซึ่งเป็นฤดูกาลจับจ่าย และผลของมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงปลายปี
สินเชื่อธุรกิจ(ร้อยละ 67.4 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวร้อยละ 0.6 ในปี 2559 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมเพื่อซื้อกิจการในระหว่างปีสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ (ไม่รวมธุรกิจการเงิน) หดตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ร้อยละ 1.1 จากการคืนหนี้ของภาครัฐ สินเชื่อ SME (ไม่รวมธุรกิจการเงิน) ขยายตัวร้อยละ 1.8 ชะลอลงจากปีก่อนที่ร้อยละ 5.6ส่วนใหญ่จากการหดตัวของสินเชื่อในภาคอุตสาหกรรมและภาคอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดี สินเชื่อ SME ในภาคพาณิชย์ ก่อสร้าง และบริการ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
สินเชื่ออุปโภคบริโภค (ร้อยละ 32.6 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวที่ร้อยละ 4.9 ชะลอลงจากปีก่อนที่ร้อยละ 7.1 โดยสินเชื่อที่อยู่อาศัย บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ร้อยละ 6.9 5.9 และ 3.8 ตามลำดับ ขณะที่สินเชื่อรถยนต์ขยายตัวที่ร้อยละ 1.3 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(Non-Performing Loan : NPL) มียอดคงค้าง 385.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 48.1 พันล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของ NPL ในธุรกิจ SME ส่งผลให้สัดส่วน Gross NPL ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.83 จากร้อยละ 2.55 โดยคุณภาพสินเชื่อธุรกิจด้อยลงในภาคพาณิชย์ บริการ อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ขณะที่คุณภาพสินเชื่ออุปโภคบริโภคด้อยลงจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก สินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (Special Mention Loan : SM) มียอดคงค้างทั้งสิ้น 358 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.9 พันล้านบาท จากสิ้นปี 2558 ทำให้สัดส่วน SM ต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 2.63 จากปีก่อนที่ร้อยละ 2.38 ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์มีการกันสำรองเพิ่มขึ้น โดยเงินสำรองของระบบธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นเป็น 528.9 พันล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 19 จากระยะเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้สัดส่วนเงินสำรองที่มีต่อเงินสำรองพึงกันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 159.6 จากสิ้นปี 2558 ที่ร้อยละ 156.3
ในปี 2559 แม้ระบบธนาคารพาณิชย์จะมีค่าใช้จ่ายจากการกันสำรองที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับคุณภาพสินเชื่อที่ด้อยลง ก็ยังคงมีกำไรสุทธิ 199 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 3.6 จากการบริหารพอร์ตเงินฝากเป็นหลักโดยการเพิ่มสัดส่วนเงินฝากประเภทกระแสรายวันและออมทรัพย์ (Current and Saving Accounts :CASA)ขณะที่อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย(Return on Asset : ROA) ทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 1.1
ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินกองทุนทั้งสิ้น 2,363.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการจัดสรรกำไร เป็นเงินกองทุน ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (Tier-1 ratio) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 18 และร้อยล