เมื่อบ่ายวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 สมาชิกโครงการ ไลฟ์ พริวิเลจคลับ ของ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ(BDMS) รวม 95 คนจากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 284 คน นำโดย นายประเสริฐ เอื้อกมลสุโข มายื่นหนังสือถึง นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อร้องเรียนให้ตรวจสอบบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS)
นายประเสริฐ กล่าวภายหลังจากการยื่นหนังสือร้องเรียนว่า สมาชิกโครงการ ไลฟ์ พริวิเลจคลับ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ ซึ่งปิดโครงการนี้ทันทีตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2560 ถือว่าเป็นการผิดสัญญากับสมาชิก เพราะตอนที่ซื้อโครงการนี้ เมื่อปี 2544 บริษัทฯสัญญาว่าจะดูแลสุขภาพของสมาชิกไปตลอดชีวิต โดยจ่ายค่ารักษาครั้งละ 100 บาท โดย แลกกับการค่าสมาชิกเท่ากับ ราคาทองคำ 200 บาท ในขณะนั้น ตกประมาณ 1 ล้านบาท
สำหรับข้อร้องเรียนสำนักงานก.ล.ต. นายประเสริฐ กล่าวว่า ต้องการให้ตรวจสอบว่า บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการมีการเปิดเผยข้อมูครบถ้วน หรือให้ข้อความเป็นเท็จหรือก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับฐานะการเงินของบริษัทหรือไม่ เพราะจดหมายที่บริษัทฯส่งถือสมาชิกอ้างถึงสำนักงานก.ล.ต.ว่า บริษัทฯต้องปิดโครงการ เนิ่องจากจะต้องตั้งสำรองค่าใช้จ่ายตามมาตรฐานบัญชีใหม่ เกี่ยวกับสัญญาประกันภัย และที่ปรึกษาทางกฎหมายของบริษัทฯให้ความเห็นว่าข้อตกลงที่บริษัทฯทำไว้กับสมาชิกเข้าลักษณะเป็นสัญญาประกันภัย หากทำต่อไปจะถือว่ามีเจตนาที่จะกระทำผิดกฎหมาย
นอกจากนั้นได้ขอให้สำนักงานก.ล.ต.ตรวจสอบว่ามีกรรมการ หรือผู้บริหาร บริษัท การขายหุ้นออกไปหรือไม่ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือยุติโครงการนี้ เพราะมีผลต่อความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น
“พวกเราต้องการให้บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการดูแลสุขภาพไปตลอดชีวิตตามข้อตกลงเดิม หากไม่ยินยอมก็จะต้องไปฟ้องศาลแพ่ง กรณีผิดสัญญาที่ให้ไว้กับสมาชิก บริษัทฯอย่าเอาเรื่องเงินมาแลกกับชีวิตของคน พวกเราลงทุนเป็นสมาชิก เพราะไม่ต้องการเป็นภาระของลูกหลาน และมีการยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิต เวลาที่ผ่านมา 14ปี มาถึงตอนนี้ ทุกคนก็มีอายุมากแล้ว หลายคนก็ป่วย เป็นมะเร็งต้องผ่าตัดแต่บริษัทฯกลับปิดโครงการทันที ทำให้สมาชิกได้รับความเดือดร้อนมาก” นายประเสริฐกล่าว
สำหรับที่มาของโครงการนี้ เกิดขึ้นในช่วงหลังวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง บริษัทฯได้เชิญชวนลูกค้าที่ใช้บริการมานานมาซื้อสมาชิก โดยจะต้องผ่านการตรวจสุขภาพทุกคน ซึ่งขณะนั้นบริษัทฯ ยังมีฐานะการเงินไม่ดี ไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ได้ เมื่อบริษัทนำเงินของสมาชิกมาต่อยอดธุรกิจจนสามารถผ่านพ้นความยากลำบากและกลับมีสถานะการเงินที่แข็งแรง จนสามารถมีเงินซื้อ โรงพยาบาล ต่างๆเข้ามาเเครือข่ายจำนวนมาก และซื้อโรงแรมปาร์คนายเลิศเป็นหมื่นล้ านบาท
นายปริย เตชะมวลไววิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการ และสื่อสารองค์กรสำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวว่า ได้รับจดหมายร้องเรียนแล้ว ขอเวลาพิจารณาข้อมูลก่อนว่า อยู่ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ ในการดูแลของสำนักงานก.ล.ต.หรือไม่ แต่ระบุช่วงเวลาและจะเชิญผู้บริหารบริษัทฯมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ สำนักงานก.ล.ต.จะดูแลและสร้างความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย