อสังหาริมทรัพย์ไทย กับ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’

04 ก.พ. 2560 | 00:10 น.
colum07-3233-a คำถาม? คือ Donald Trump มาเกี่ยวข้องได้อย่างไร? เพราะอยู่ฝั่งอเมริกาและอสังหาฯ คือ Domestic Product อยู่ถึงเมืองไทย

ก่อนอื่นก็ต้องยอมรับก่อนว่า “Donald Trump” คือผู้ที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกจากการนำอเมริกายุคใหม่เข้าสู่ “America First” คือ อเมริกา ต้องมาก่อน คนอื่นมาทีหลัง ใครมาเอาเปรียบอเมริกาต้องจัดการ เช่น จีนได้เปรียบการค้ามากต้องจัดการด้วยตั้งกำแพงภาษี Mexico มี Migpation สู่อเมริกา ต้องกีดกันไม่ให้เข้า ทั้งๆที่ปู่ของ Trump เป็นคน Poland หนีสงครามโลกจากเยอรมัน ภรรยาก็เป็นคนอเมริกัน-เช็คโก ที่น่าเป็นห่วงคือจะต้องจัดการกับ IS กลุ่มอิสลามหัวรุนแรงให้ราบคาบ ต้องจัดการด้วยอาวุธ ตั้งป้อมกับเกาหลีเหนือ ข่มขู่กันด้วยอาวุธนิวเคลียร์ และญี่ปุ่นด้วยการถอนทหาร

ดูแล้วคุณ Trump เป็นนักรบอเมริกันรุ่นใหม่รุนแรง ดุเดือด ใช้ระบบจากการเลือกตั้งที่เรียกว่า D-D (Dictatorial Democracy) คือ เผด็จการประชาธิปไตย ส่วนดีก็ลดภาษีคนอเมริกัน โดยเฉพาะคนชั้นกลางที่เลือกคุณ Trump และขู่นักธุรกิจอเมริกันที่ไปลงทุนสร้างงานต่างประเทศ เช่น ธุรกิจ Computer ที่ออกแบบโดยอเมริกัน ผลิตที่จีน เป็นต้น ยุให้จีนตีกันด้วยการสนับสนุนไต้หวัน

โลกสั่นคลอนแน่ๆ ยักษ์ใหญ่ของโลกท้ารบรอบตัว ทั้งในประเทศกับสื่อมวลชน CIA และผู้หญิงอเมริกันที่เดินขบวน 1 ล้านคน ส่วนดีของ America Frist กระตุ้นการลงทุน เหมือน คสช. ท่านประยุทธ์ จะลงทุน Infrastructure ถนน รถไฟความเร็วสูง การเดินทางทางอากาศทั่วประเทศ เหมือนสมัยหลังสงครามโลกและกระตุ้นให้เอกชนลงทุนในประเทศ

ที่น่าสนใจและกระทบไทยจะมี 2 อย่าง ระดับชาติ “ส่งออก” ของเราถูกกระทบด้วยกำแพงภาษี ต่อมาคือ “การเงินทั่วโลก” กำลังบวม (Inflate) ด้วยอเมริกันจะลดดอกเบี้ย การแลกเปลี่ยนดอลล่าห์ กับการเงินอื่นๆทั่วโลก จะเป็นอาวุธและปัจจัยที่สั่นสะเทือนการลงทุนค้าขายข้ามชาติแน่ๆ และอเมริกาจะปั้ม Q.E เงินเข้าระบบออกมาลงทุน Infrastructure อีกมากมาย

TP07-3233-a เงินเฟ้อจะกระจายทั่วโลก และจะเฟ้อมาถึงไทยด้วย การเงินเป็นระบบเดียวที่เคลื่อนไหวข้ามประเทศ คล่องที่สุดไม่มี Migration ค้าขายก็กีดกันไม่สนับสนุน “การค้าเสรี” เหมือนในอดีต เงินที่ฟูฟ่องทั่วโลก ก็จะฟูเข้ามาในประเทศไทยผ่านตลาดหุ้นบ้านเรา เก็งกำไร เงินเฟ้อก็จะตามมา

อสังหาฯของเราก็จะเกิด “Over- Built Over – Supply” อีก พอเกิดผลกระทบมี NPL มากขึ้น ก็จะกระทบกระเทือน “วิกฤต” อีกครั้ง (หวังว่าไม่เป็นเช่นนั้นธนาคารแห่งประเทศไทยหรือแบงก์ชาติ ท่านรองสมคิดก็รู้ดี จะตั้งรับอย่างไร)

ดังนั้นอสังหาริมทรัพย์ปีระกาของไทยจะ “ผันผวน-แปรปรวน” และอาจจะผกผัน ปี 2556 ซึ่งเป็นปีที่เศรษฐกิจการเงินเปราะบางมาก หลายค่ายเริ่มกลับมาตั้งแผนรับ ลดการสร้างโครงการใหม่ๆ ยักษ์ใหญ่ในตลาดลดโครงการจาก 37 โครงการมาเหลือไม่ถึง 30 โครงการ และหันมาทำแนวราบ(ซึ่งเสี่ยงต่ำ) มากขึ้น ทั้ง ๆ ที่ Mass Transit ของเราเปิดพื้นที่ลงทุนใหม่ๆ รอบสถานีมากมาย จนบางพื้นที่ Condo มากจนจะล้นตลาดแล้ว

ดังนั้นอสังหาริมทรัพย์ของไทยต้องตั้งรับเหมือนกัน ยิ่งผู้บริโภคโดยเฉพาะคนชั้นกลาง 75% ของตลาดที่กู้ไม่ผ่าน “ปีที่ผ่านมาสูงถึง 40%” ยิ่งทำให้ตลาดปีนี้จะหดตัวมากขึ้น ยิ่ง Developer ไม่กู้ธนาคาร แต่ออก “หุ้นกู้และเพิ่มทุน” ยิ่งทำให้ D/E (อัตราส่วนการกู้ต่อทุน)ต่ำ ยิ่งหึกเหิมก่อสร้างมากขึ้นจนน่ากลัว คำว่า “Over Built” ยิ่งกองทุนต่างชาติมีเงินร่อนอยู่ในโลกมากมาย กำลังหาผู้กู้อยู่ยังมีส่วนเติมเชื้อเพลิงเข้ากับอสังหาฯทั่วโลก โดยเฉพาะโลกด้านตะวันออก เช่น จีน ไทย ที่ชอบการเก็งกำไรทั้งนั้น

ดังนั้นขณะนี้เร็วเกินไปที่จะเห็นชัดว่า Donald Trump จะทำอะไรรุนแรง เปลี่ยนจากการค้าเสรีมาเป็นกำแพงกีดกันการค้า และคำว่า America First มีหนังสะท้อนอเมริกาในปี 1963 ชื่อ “Ugly American” สมัยสงครามเวียดนาม นำแสดงโดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ ของไทย กับ “มาบลอน แบรนโด” ใครสนใจเปิด WEB SITE ดูได้ สะท้อนอเมริกาที่แท้จริง คนอเมริกันส่วนใหญ่น่าจะดีแต่นักการเมืองและรัฐบาลอเมริกาชอบเอาเปรียบผู้อื่น สงครามก็ทำมามาก เช่น เวียดนาม เกาหลี สงครามโลกกับญี่ปุ่น กับอิสราเอล (คนอเมริกันที่ร่ำรวย เป็น Jewist ที่อยู่ในนิวยอร์คปัจจุบัน รุ่นคุณปู่ คุณ trump และอย่าลืม Trump ว่าเป็นคนอเมริกาที่รวยที่สุดในนิวยอร์ค และเป็นอสังหาริมทรัพย์เบอร์ 1 ของนิวยอร์คด้วย

โชคดีครับ ติดตามให้ดีพายุตั้งเค้ามาแล้ว เตรียมแผน 2-3 ไว้ อย่าทำตัวเป็นนิทานอีสปจั่กจั่นกับมดเลย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,231 วันที่ 5 - 8 กุมภาพันธ์ 2560