รัฐเดินเครื่อง “พร้อมเพย์” วันนี้ มั่นใจโอน-จ่ายเงิน ฟรีค่าธรรมเนียม สูงสุด 10บาทต่อครั้ง ยันระบบป้องกันถูกแฮก-ขโมยข้อมูล เตรียมเปิดลงทะเบียนนิติบุคคล-องค์กร ลงทะเบียนวันนี้ ลั่นระบบพร้อมใช้งานดีเดย์ 1 มี.ค.60
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมผู้บริหารกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และธนาคารในระบบ ร่วมเปิดตัวบริการการโอนเงินข้ามค่ายแบบฟรีๆ โดยให้ลูกค้าของแต่ละธนาคารสามารถใช้บริการ ถึงแม้จะเป็นต่างธนาคาร เพียงแค่ผูกหมายเลขบัญชีธนาคารเข้ากับหมายเลขประจำตัวประชาชนทั้ง 13 หลัก หรือผูกบัญชีธนาคารเข้ากับหมายเลขโทรศัพท์ ก็สามารถใช้บริการโดยบริการจ่ายหรือโอนเงิน ไม่เกิน 5,000 บาทต่อครั้ง จะฟรีค่าธรรมเนียม หากโอนเงินต่อรายการตั้งแต่ 5,000-30,000 บาท คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 2 บาท หากโอนเงินตั้งแต่ 3 หมื่น-1 แสนบาท คิดค่าธรรมเนียมไม่เกิน 5บาท และหากโอนเงินตั้งแต่ 1แสนบาทขึ้นไปจะเสียค่าธรรมเนียมไม่เกินครั้งละ 10 บาท ครอบคลุมการโอนต่างธนาคารและต่างจังหวัด ในอัตราที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกธนาคาร โดยเดิมผู้โอนจะต้องเสียค่าธรรมเนียมตั้งแต่ 10 บาทไล่ไปจนถึง 35 บาท
ทั้งนี้มั่นใจว่าด้วยค่าธรรมเนียมที่ทุกธนาคารพร้อมใจลดลงทั้งระบบนั้น จะทำให้ประชนสนใจผูกบัญชีแล้วใช้บริการมากขึ้น โดยคาดว่าในระยะเวลาอันใกล้หรือภายในสิ้นปีนี้ ยอดผู้สมัครใช้บริการจะสูงถึง 30 ล้านบัญชี ขณะที่ความปลอดภัยด้วยมาตรฐานเดียวกับหลายประเทศที่ใช้ระบบเดียวกับไทย โดยปัจจุบันมีการทำธุรกรรมโดยการโอนเงินคิดเป็นยอดเงินกว่า 4 ล้านรายการต่อวัน คิดเป็นเม็ดเงินสูงถึง 30,000 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งข้อมูลที่น่าสนใจ คือ สถิติการโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนปี 2558 สูงถึง 264 ล้านรายการ มูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาทและมีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 73% ซึ่งแน่นอนว่าหลังระบบเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ อัตราการโอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือจะขยายตัวมากกว่า 100% อย่างแน่นอน
“ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการผ่านโทรศัพท์มือถือแล้ว 14 ล้านบัญชี รองลงมาคือ การโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม และโอนผ่านเคาเตอร์หรือสาขาของธนาคาร ดังนั้นโจทย์ที่ตั้งไว้ คือ การสร้างความเข้าใจว่า การโอนด้วยระบบพร้อมเพย์ซึ่งเป็นระบบปิดเหมือนการโอนในปัจจุบันจึงมีความปลอดภัยจึงยากต่อการถูกก่อกวนหรือขโมยข้อมูลได้”
ส่วนการขยายการให้บริการสู่กลุ่มนิติบุคคล องค์กร ตลอดจนห้างร้าน ในวันเสาร์ที่ 28 มกราคม2560 ธนาคารพาณิชย์จะขยายการโดยรับลงทะเบียนให้กับกลุ่มลูกค้า ซึ่งจะเริ่มใช้ได้จริงตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป ทั้งนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ผลกระทบจากโครงการพร้อมเพย์ต่อรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารพาณิชย์ปี 2560 น่าจะอยู่ในช่วง 3.1 – 3.6 พันล้านบาท ภายใต้สมมติฐานการยอมรับนวัตกรรมของผู้ใช้บริการ (Adoption Rate) ในปีแรกของโครงการพร้อมเพย์ที่ 60% ขณะที่ ผลบวกสุทธิต่อมูลค่าทางเศรษฐกิจจากโครงการพร้อมเพย์ในระยะ 10 ปี คงไม่ต่ำกว่า 1.9 พันล้านบาทต่อปี แม้ว่าในช่วงปีแรกๆ มูลค่าทางเศรษฐกิจดังกล่าวอาจจะยังอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย เนื่องจากยังอยู่ในระยะการลงทุนและปรับปรุงกระบวนการต่างๆ