คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวเห็นชอบแผนการระบายข้าวคงเหลือในสต็อกของรัฐ

25 ม.ค. 2560 | 03:22 น.
นางสาววิบูลย์ลักษณ์  ร่วมรักษ์  ปลัดกระทรวงพาณิชย์  ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560 คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาจัดทำแผนระบายข้าวคงเหลือในสต็อกของรัฐ ปริมาณ 8.01 ล้านตัน ตามมติคณะกรรมการ นโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่เห็นชอบให้เร่งรัดการระบายข้าวคงเหลือในสต็อกของรัฐเข้าสู่ช่องทางระบายที่เหมาะสมกับสภาพข้าวเพื่อรักษาประโยชน์สูงสุดของรัฐและไม่ให้เกิดผลกระทบต่อตลาด ราคาข้าวและธัญพืชอื่นๆ ที่เกษตรกรจะได้รับ ซึ่งในการประชุมดังกล่าว คณะอนุกรรมการฯ ได้นำข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ผลผลิต และราคาของสินค้าข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพด รวมทั้งปริมาณข้าวที่เคยนำออกมาระบายและปัญหาอุปสรรคที่พบในช่วงเวลาที่ผ่านมา มาพิจารณาประกอบการกำหนดแผนและแนวทางดำเนินการในการระบายข้าวคงเหลือในสต็อกของรัฐให้เป็นไปด้วยความเหมาะสม รอบคอบและรัดกุม รวมทั้งเกิดประโยชน์สูงสุด โดยแผนการระบายข้าวที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการฯ ดังกล่าวแล้ว จะนำเสนอต่อประธานกรรมการ นบข. พิจารณาให้ความเห็นชอบภายในสัปดาห์นี้ก่อนมอบให้กรมการค้าต่างประเทศดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบการดำเนินการจัดทำข้าวสารบรรจุถุงเพื่อบริจาคช่วยเหลือ ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง กระบี่ ตรัง สงขลา ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และพัทลุง ตามที่คณะกรรมการ นบข. ได้มีมติมอบหมายให้ กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการ โดยข้าวสารบรรจุถุงดังกล่าวเป็นชนิดข้าวขาว 5% ฤดูใหม่ คุณภาพดี ปริมาณ 2,700 ตัน หรือ 540,000 ถุง ถุงละ 5 กิโลกรัม ประทับตรา “รัฐบาลช่วยเหลือผู้ประสบภัย” โดยในวันที่ 26 มกราคมนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางไปตรวจราชการเพื่อติดตามผลการช่วยเหลือแก้ไขเฉพาะหน้าของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่อุทกภัยน้ำท่วม ณ จังหวัดสุราษฏร์ธานี ในโอกาสนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดส่งข้าวสารบรรจุถุงชุดแรกจำนวน 6,500 ถุง เพื่อแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในการลงพื้นที่ดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีด้วย ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะประสานกับกระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทยอยนำส่งข้าวสารบรรจุถุงส่วนที่เหลือส่งให้จังหวัด ที่ประสบภัยน้ำท่วมนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่โดยเร็วต่อไป