"ทางแยกริมขอบเหว" โดย...ฉาย บุนนาค

24 ม.ค. 2560 | 12:59 น.
|คอลัมน์"พอเพียง...อย่างพอใจ" โดย...ฉาย บุนนาค | หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 18 ฉบับวันที่ 26-28 มกราคม 2560

หลังจากสอบตกอนุบาลตลาดทุนอย่างไม่เป็นท่า... ผมเร่งศึกษาหาความรู้และประสบการณ์เพิ่มเติมอย่างไม่ย่อท้อ เคล็ดลับการเรียนลัดของผมคือ"การช่างพูดคุย ช่างถาม"ถึงเส้นทางการต่อสู้ของรุ่นใหญ่ในวงการหลายท่าน เป็นเรื่องแปลกที่เพื่อนหรือคนสนิทของผมส่วนใหญ่ตั้งแต่เรียนจบมา มักเป็นผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่าหลายสิบปี และผมมักได้รับความเอ็นดูจากพวกเขา ผมซึมซับและย้อนเวลาประสบการณ์ 20 ปีในตลาดทุนหุ้นไปโดยปริยาย

ด้านงานประจำ ผมเริ่มทำงานใหม่ที่ บล.ซีมิโก้ ในฐานะที่ปรึกษาการเงินหรือ Investment Banking เป็นงานประจำที่มั่นคงและเป็นโอกาสดีในการเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ มากมาย เนื่องด้วยภาษาอังกฤษผมค่อนข้างดี จึงโชคดีได้ประสานงานตรงกับ CEO ณ วันนั้น คือคุณ Robert W. McMillan (นายคนแรกของผม) ทุกคนเรียกชื่อเล่นแกว่า “คุณบ๊อบ”

คุณบ๊อบเป็นคนดุ เป็นเจ้านายที่เรียกร้องสูง แต่เป็นคนที่ปูรากฐานด้านจัดโครงสร้างการเงินให้ผม การทำงานตรงกับแกและการดุด่าเคี่ยวเข็ญของแกทำให้ผมมีวันนี้ ผมมีความเคารพแกเป็นอย่างยิ่ง

ใช่ครับ... บางคนอาจจะงง ผมทำ 2 อย่างในเวลาเดียวกันคืองานประจำและการเล่นหุ้น
ผมทำงานกับคุณบ๊อบเป็นเวลาปีกว่า เคยได้โบนัสเกือบ 30 เดือน (ซึ่งต่อลมหายใจผมได้พอควร) แต่น่าเสียดายผมต้องออกเพราะผมไม่สามารถมีสมาธิเต็มที่ ตราบใดผมยังเล่นหุ้นอยู่อย่างนี้

ส่วนเรื่องหนี้สิน ผมก็ก้มหน้าก้มตาใช้หนี้ต่อ โดยบางครั้งผมต้องจำใจกู้หนี้นอกระบบในอัตรา 10% ต่อเดือน เพื่อรักษาชื่อเสียงในการลงทุนต่อ นับว่าเป็นช่วงเวลาที่เหนื่อยยากและบีบคั้นจิตใจของเด็กหนุ่มวัยเบญจเพสเป็นอย่างมาก เพื่อนวัยเด็กของผมหลายคนก็ทำตัวเหินห่าง และมันคือจุดเริ่มต้นของการดื่มสุราอย่างจริงจังของผม

สุราคือเพื่อนใหม่ ที่คอยผ่อนคลายจิตใจยามอาทิตย์ตก คือยานอนหลับชั้นดี คือสัญลักษณ์ของนักสู้ สำหรับผมในวันนั้น
ในวัย 25 ปี ความเครียดและกดดันจากเหตุการณ์มากมาย สร้างจุดเปลี่ยนในชีวิตผม เปลี่ยนผมให้เป็นผู้ใหญ่ คนขี้โมโห ก้าวร้าว และ ดุดัน จากที่ผมไม่เคยเป็น ผมคือไฟที่ร้อนแรง พร้อมเผาไหม้สิ่งกั้นขวาง และผมพร้อมเผชิญกับทุกสิ่งอย่างในวันนั้น เพราะผมคือกำลังใจของตัวเอง

ชีวิตบนทางแยกริมขอบเหวของ Angry Young Man คนหนึ่ง ที่ไร้ครูชี้นำ ที่ซึมซับทุกศาสตร์แห่งตลาดทุน จากทุกกูรู ไม่ว่าด้านมืดและด้านสว่าง กลับมาโลดแล่นอีกครั้งหลังใช้หนี้หมด

ผมทำกำไรหลายสิบล้านบาท มากเกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ หากถามถึงเป้าหมาย ณ วันนั้น มีคำเดียวจะสังเขปได้ดีที่สุด คือ “MORE” หรือ “มากกว่านี้” ผมเล่นหุ้นอีกครั้งอย่างมั่นใจและไร้สติ ผมมีพรรคพวกนักลงทุนมากมาย

ในด้านวัตถุชีวิต ผมสุขสบายขึ้นมากเป็นทวีคูณ ควบคู่ไปกับกิเลศ ตัวโลภะ ที่ทำหน้าปิดตาและกระซิบข้างหูตลอดเวลาให้ผมไม่รู้จักพอ...

ในด้านจิตใจผมร้อนรุ่มและแสวงหาโอกาสในทุกเวลาลมหายใจเข้าออก...
ผมชนะเชิงทฤษฎี ชนะทางตัวเลขกำไร ... แต่ผมกำลังจะแพ้ในเชิงกฎหมายอย่างไม่รู้ตัว
ติดตามฉบับต่อไปวันพุธหน้า...