บิ๊กอสังหาฯเดินหน้าสู่จุดเปลี่ยน ศุภาลัยจ่อยุบบริษัทย่อย-ลดซํ้าซ้อน

17 ม.ค. 2560 | 02:00 น.
ศุภาลัย เล็งยุบบริษัทย่อย เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินงาน พร้อมพัฒนาและเพิ่มจำนวนแบบบ้านใหม่ สอดรับการเปลี่ยนแปลงของสังคม ด้าน เพซ จับมือ อพอลโล สถาบันจัดการการลงทุนระดับโลก ลงทุนในโครงการมหานคร

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2560 ว่า จากการรัฐบาลมีแผนจะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องอีกหลายมาตรการเชื่อมั่นว่าจะเป็นปีแห่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง อีกทั้งผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่ชะลอการเปิดโครงการใหม่ในปีที่ผ่านมา ดังนั้นปีนี้คาดว่าตลาดอสังหาฯ จะมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นและจะมีการแข่งขันที่ดุเดือดโดยเฉพาะดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ ทั้งนี้ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการรายใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งในส่วนของการปรับเปลี่ยนภายในองค์กรและการร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ เพื่อขยายธุรกิจ

สำหรับบริษัทเองก็มีการปรับเปลี่ยนเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคและความคล่องตัวในการทำงาน โดยในปีนี้บริษัทจะมีการยุบบริษัทย่อยบางบริษัทที่เห็นว่ามีความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน เช่น บริษัท ศุภาลัยอิสาน จำกัด ที่การดำเนินงานในปัจจุบันเป็นระบบแยกบัญชี การจัดซื้อที่ดินก็แยกกันทำ แต่ต้องมากู้เงินที่บริษัทแม่เพื่อซื้อที่ดิน ซึ่งทำให้เกิดความยุ่งยากและไม่มีความกระชับในการดำเนินงาน

บริษัทจึงมีแนวคิดที่จะยุบบริษัทย่อยเหล่านี้ โดยจะรวมพนักงานทั้งหมดมาอยู่ภายใต้บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) สำหรับบริษัทที่มีลักษณะงานไม่คล้ายกันอย่างบริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ที่ดูแลเรื่องการบริหารจัดการโรงแรม และสถานพักตากอากาศก็ยังคงไว้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทย่อยก่อน นอกจากการปรับเปลี่ยนภายในองค์กรแล้ว บริษัทยังมุ่งมั่นพัฒนาแบบบ้านใหม่ๆ ให้มากขึ้น เพื่อสอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น แบบบ้านสำหรับผู้สูงอายุ รูปแบบ ดีไซน์ที่ทันสมัย

เช่นเดียวกับ นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ PACE กล่าวว่า บริษัทตกลงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท อพอลโล โกลบอล แมเนจเมนท์ฯ และบริษัทในเครือ, “Apollo” (NYSE: APO) หนึ่งในสถาบันจัดการการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของโลก

การลงทุนครั้งนี้ ประกอบด้วยสัดส่วนการลงทุนของอพอลโล 5,900 ล้านบาท (165 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และโกลด์แมน แซ็คส์ (NYSE: GS) 2,5000 ล้านบาท (70 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งจะร่วมลงทุนด้วยสัดส่วนการลงทุน 49% ใน 3 ส่วนหลักของโครงการมหานคร ได้แก่ โรงแรมบางกอก เอดิชั่น ส่วนรีเทล มหานคร คิวบ์ รวมถึงจุดชมวิว ออบเซอร์เวชันเด็คและรูฟท็อปบาร์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย อย่างไรก็ดีคาดว่าสิ้นเดือนมกราคมนี้กระบวนการด้านสัญญาจะแล้วเสร็จทั้งหมด”นายสรพจน์ กล่าว

ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวจะสามารถสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินและลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทได้อย่างมาก ซึ่งนอกจากการชำระหนี้เงินกู้ให้กับสถาบันเงินที่นำมาสร้างโครงการมหานครแล้ว ยังมีแผนจะนำเงินไปพัฒนาโครงการในอนาคต

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,227 วันที่ 15 - 18 มกราคม 2560