ไขกลยุทธ์‘ททท.’ปี60 ขับเคลื่อนท่องเที่ยวโต10%

09 ม.ค. 2560 | 02:00 น.
การขยายตัวของการท่องเที่ยวในปี2559 ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มองแนวโน้มการปิดฉากรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 2.52 ล้านล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% ถือว่าเติบโตเกินกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ที่ 2.4 ล้านล้านบาท ดังนั้นเป้าหมายการขับเคลื่อนรายได้จากการท่องเที่ยวในปีนี้ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มองไว้ที่ 2.71 ล้านล้านบาท ขยายตัว 8.17% ในมุมของททท.ก็ดูจะเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกัน จึงได้วางเป้าหมายการผลักดันรายได้จากการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้อยู่ที่ 2.77 ล้านล้านบาท (ตารางประกอบ)

 33%สัดส่วนรายได้เที่ยวในปท.

“เป้าหมายการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวของททท.ในปีนี้ เราไม่ได้เน้นเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยมากนัก โดยมองว่าการเติบโตจะอยู่ที่5.51%แต่เน้นหนักไปที่การผลักดันเรื่องของรายได้ให้เพิ่มขึ้น 10% โดยมุ่งดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มมากขึ้น และมองไปที่การรักษาสัดส่วนรายได้จากตลาดในประเทศหรือไทยเที่ยวไทยต่อรายได้การท่องเที่ยวรวม ให้ได้ไม่น้อยกว่า 33%เพื่อกระจายความเสี่ยง ที่ไม่ใช่พึงพิงรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลักเท่านั้น”ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการททท. ฉายถึงเป้าหมายการทำงานในปีนี้

ทั้งนี้ททท.ได้ประเมินสถานการณ์ท่องเที่ยวในภาพรวมปีนี้ ไว้ว่าการเติบโตของรายได้ที่จะแตะ 2.77 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากตลาดต่างประเทศ 1.81 ล้านล้านบาทและตลาดในประเทศ ที่จะสร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศกว่า 9.53 แสนล้านบาท โดยมีการขยายตัวในภาพรวมของรายได้ 10% ซึ่งการขยายตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เกิดจากปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซีย การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าและลดราคาค่าธรรมเนียม Visa on Arrival ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม2559-28 กุมภาพันธ์ 2560 ช่วยกระตุ้นการเดินทางช่วงปีใหม่ต่อเนื่องถึงตรุษจีน

ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวจีนซึ่งเป็นตลาดหลักของไทย ก็มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นในช่วงตรุษจีนที่จะถึงนี้ โดยททท.คาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 9 ล้านคน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1%และเศรษฐกิจที่ดีในภูมิภาคอาเซียน ส่งผลดีต่อการเดินทางระยะใกล้

ขณะที่การขยายตัวของไทยเที่ยวไทยในปีนี้ ก็ได้แรงหนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลทั้งมาตรการส่งเสริม “ไทยเที่ยวไทย”โดยตรง และการเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชนมีเงินจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น รวมถึงการพัฒนาโครงข่ายการเดินทางทั้งทางบกและทางทะเล ที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น

mp26-3225-b  ดันค่าใช้จ่ายต่างชาติเพิ่ม10%

การจะเดินให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวในด้านของตลาดต่างประเทศ ททท.จะรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดระยะไกล อย่างล่าสุดททท.ได้ร่วมมือกับ EVA Air ส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันเพื่อบุกตลาดภูมิภาคอเมริกาตลอดทั้งปีนี้ เนื่องจาก EVA AIR เป็นสายการบินระดับต้นที่นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคนี้นิยมใช้บริการเดินทางมาเที่ยวไทย ทั้งยังจะเพิ่มความเข้มข้นในการทำตลาดระยะใกล้

รวมถึงยกระดับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของไทย เพื่อสร้างการรับรู้และให้ไทยก้าวสู่การเปิดควอลิตี้เลเชอร์ เดสติเนชั่นหลังจากในปี2559 การท่องเที่ยวไทยมีการเติบโตตามเป้าหมายสู่การเป็นประเทศท่องเที่ยวคุณภาพ จากรายงานสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย ตลอดปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 31 ธันวาคม 2559 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 32.58 ล้านคน ขยายตัว 8.91% ก่อให้เกิดรายได้ 1.64 ล้านล้านบาท ขยายตัว 12.64% จากปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวสวีเดนพักนานที่สุด 19.41 วัน ขณะที่นักท่องเที่ยวอิสราเอลใช้จ่ายสูงสุด 84,827 บาทต่อทริปและที่สำคัญคือนักท่องเที่ยวต่างชาติพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 9.56 วัน ใช้จ่ายมากขึ้นเป็น 5,268.42 ต่อวัน เพิ่มขึ้น3.25%

กลยุทธสำหรับตลาดต่างประเทศ ททท.จะเน้นใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. พิจารณาเปิดสำนักงานใหม่ในต่างประเทศในตลาดระยะใกล้เพิ่มขึ้น รวมถึงการตั้ง Marketing Rep. ประจำมณฑลในประเทศจีน 2. Target for Valuesให้ความสำคัญกับการทำตลาดแบบเฉพาะเจาะจงกลุ่มทั้งตลาดระยะใกล้และระยะไกล ได้แก่ กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนสกลุ่มเวดดิ้งและฮันนีมูน กลุ่มสปอร์ตและกลุ่มกรีนทัวริซึม รวมถึงกลุ่มประชุมสัมมนา (ไมซ์) 3. การพัฒนาสินค้าทางการท่องเที่ยวใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย ผ่านโครงการ The Link ในตลาดระยะไกล 4. ส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันระหว่างประเทศ (2คันทรี 1 เดสติเนชัน)ทั้งด้านการตลาดและความร่วมมือทางวิชาการ โดยผ่าน TAT Academy นอกจากนี้ยังกระตุ้นให้เกิดการเดินทางจริง ด้วยแคมเปญ Discover Amazing Stories in Amazing Thailand with Thai Unique Local Experiences เพื่อมุ่งให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายต่อทริปไม่น้อยกว่า 10%

 บูมเที่ยวไทยได้ทั้งปี สุขีทุกเดือน

สำหรับการส่งเสริมตลาดในประเทศ ททท.จะมุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งจากภายในตามแนวทางไทยแลนด์ 4.0 โดยมุ่งสร้างรายได้จากไทยเที่ยวไทยเชิงคุณภาพ สร้างสมดุลในเชิงพื้นที่และเวลา สมดุลในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้สามารถรักษาสัดส่วนรายได้จากในประเทศต่อรายได้การท่องเที่ยวรวม ไม่น้อยกว่า 33% ภายใต้นโยบาย "ปลุกพลังเที่ยวไทย ใส่ใจท้องถิ่นยั่งยืน" กระตุ้นให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ลดการเดินทางไปต่างประเทศ

รวมถึงการสร้างกระแสภาคภูมิใจในความเป็นไทย (ไทยเท่) ดึงคนไทยเที่ยวในประเทศด้วยมุมมองใหม่ด้านคุณค่าของแต่ละภาคบนพื้นฐานของวิถีไทย ภายใต้ธีมท่องเที่ยววิถีไทย เก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง เจาะตลาดศักยภาพที่ใช้จ่ายสูง ได้แก่ วัยเก๋า กลุ่มสตรี คนรุ่นใหม่ Gen-Y ทั้งการท่องเที่ยว In-In ภายในพื้นที่ ในจังหวัด กลุ่มจังหวัด แอ่งท่องเที่ยว และ Outside-In จากต่างพื้นที่เข้าไป โดยมีสินค้าทางการท่องเที่ยวเดิม ได้แก่ เมืองต้องห้าม เขาเล่าว่า วันธรรมดาน่าเที่ยว ท้าเที่ยวข้ามภาค เสริมด้วย BIG Event ในทุกไตรมาส เช่น การแสดงดนตรี วัฒนธรรม และการแข่งขันกีฬา รวมทั้งจะเพิ่มเติมสินค้าทางการท่องเที่ยวใหม่ ได้แก่ โครงการส่องแสงธรรม Night at the Temple, Local Food 2.0 อาหารถิ่น พืชผัก ผลไม้ถิ่น เชื่อมท่องเที่ยวเชิงเกษตร Local

Tourism Plus (Industrial Tourism) ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยวชุมชน และเที่ยวชายแดน (AEC Connect)
รวมถึงการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวในหลากหลายมิติ อาทิ 1.คนเพื่อการท่องเที่ยว เน้นการเพิ่มศักยภาพในการทำการตลาดท่องเที่ยวของชุมชน ผ่านโครงการเจ้าบ้านที่ดี โครงการให้ความรู้ด้านการตลาดแก่ชุมชน (MERLOT: Merchadizing for Local Tourism) 2.ของเพื่อการท่องเที่ยว โดยสานต่อโครงการวิลเลจ ทู เดอะเวิล์ดการส่งเสริมโอท็อป เพื่อเป็นสินค้าและของที่ระลึกจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวรวมถึงการร่วมกับภาคเอกชนพัฒนาสถานีริมทางเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวและแหล่งจำหน่ายสินค้าชุมชนแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งเป้าหมายในการทำการตลาดในประเทศ ททท.จะเน้นเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยในท้องถิ่น กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวทุกเดือน เที่ยวไทยได้ทั้งปี สุขีทุกเดือน โดยตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยว่า 10 % ของปีที่ผ่านมาเช่นกัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,225 วันที่ 8 - 11 มกราคม 2560