ส่องทำเลทอง...รถไฟฟ้า BTSฮอตอีกนาน

05 ม.ค. 2560 | 04:00 น.
เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวปัจจุบันที่เรียกกันติดปากว่า รถไฟฟ้า BTSเป็นเส้นทางที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับพื้นที่ตามแนวเส้นทางทั้ง 2ฝั่งตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2542 จนกระทั่งปัจจุบัน โดยโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นใหม่ๆ นั้นมีหลากหลายรูปแบบแต่ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาจะมีแต่โครงการคอนโดมิเนียมเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากราคาที่ดินสูงเกินกว่าจะพัฒนาโครงการรูปแบบอื่นๆ โดยโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จในพื้นที่ตามแนวสายสีเขียวปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมา เพราะผู้ประกอบการเข้ามาเปิดขายโครงการใหม่ช่วงหลังจากที่เส้นทางรถไฟฟ้าเปิดให้บริการมาระยะหนึ่ง

การเปลี่ยนแปลงเริ่มเห็นชัดขึ้นหลังจากที่เปิดให้บริการส่วนต่อขยายจากกสถานีอ่อนนุชไปสถานีแบริ่งในปี 2554 โดย ณ สิ้นปี 2559 คาดว่าจะมีคอนโดมิเนียมในพื้นที่ตามแนวสายสีเขียวปัจจุบันประมาณ 77,740 หน่วย แต่ส่วนใหญ่ขายไปแล้วโดยอัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 83% เนื่องจากเป็นทำเลที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบและเป็นแหล่งงานสำคัญของกรุงเทพมหานครเพราะมีอาคารสำนักงานมากมายตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าช่วงนี้และคาดว่าในปี 2563 อาจจะมีจำนวนมากกว่า 9 หมื่นหน่วย ราคาขายเฉลี่ยก็สูงมากโดยเฉพาะในพื้นที่ช่วงระหว่างสถานีสยามไปถึงสถานีทองหล่อที่มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2 แสนบาทต่อตารางเมตรบางโครงการเกินกว่า 5 แสนบาทต่อตารางเมตรไปแล้ว ในขณะที่พื้นที่ที่ไกลออกไปทางทิศเหนือเช่น ช่วงตั้งแต่สถานีอนุสาวรีย์ชัยไปจนถึงสถานีหมอชิตนั้นราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.5 แสนบาทต่อตารางเมตร และช่วงตั้งแต่สถานีอ่อนนุชไปถึงสถานีแบริ่งนั้นเป็นทำเลที่เพิ่งมีการขยายตัวไม่นานราคาขายจึงอาจจะยังไม่สูงมากคืออยู่ที่ประมาณ 9 หมื่นบาทต่อตารางเมตร

สำหรับในพื้นที่ส่วนต่อขยายนั้นทั้งในพื้นที่ตั้งแต่สถานีแบริ่งเป็นต้นไป และในพื้นที่ตั้งแต่สถานีหมอชิตขึ้นไปตามแนวถนนพหลโยธินทางทิศเหนือเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ช่วงประมาณปี 2556 – 2557 โดยในพื้นที่ตามแนวเส้นทางส่วนต่อขยายทางทิศใต้คือตั้งแต่สถานีอ่อนนุชเป็นต้นไปถึงสถานีเคหะสมุทรปราการมีคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้ว ณ สิ้นปี 2559 ประมาณ 3,564 หน่วยและอีกมากกว่า 4,600 หน่วยที่มีกำหนดแล้วเสร็จในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้าโดยราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้อยู่ที่ประมาณ 6 หมื่นบาทต่อตารางเมตร พื้นที่นี้อาจจะไม่ค่อยมีโครงการเปิดขายใหม่มากนักในช่วงปี2559 เพราะว่ายังมีโครงการที่เหลือขายจากการเปิดขายก่อนหน้านี้อยู่อีกไม่น้อยอัตราการขายเฉลี่ยของโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้อยู่ที่ประมาณ 62% เพราะมีโครงการเปิดขายพร้อมๆ กันมากเกินไปในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา

พื้นที่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายแบริ่ง– สมุทรปราการยังคงมีความน่าสนใจอยู่ และยังมีผู้ประกอบการหลายรายให้ความสนใจพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอีกอย่างต่อเนื่องถ้าเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายมีความคืบหน้ามากขึ้น คอนโดมิเนียมโดยส่วนใหญ่ที่เปิดขายในช่วง 1 – 2 ปีนี้จะอยู่ในพื้นที่รอบๆ สถานี 3 สถานีแรก (สำโรง ปู่เจ้าฯ และเอราวัณ) เป็นส่วนใหญ่เนื่องจากมีศูนย์การค้า ตลาด ชุมชน และเป็นบริเวณที่มีอพาร์ตเมนต์ รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมก็ไม่ไกลจากพื้นที่นี้มากนักทำให้ผู้ประกอบการเลือกเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้

นอกจากนี้ที่สถานีสำโรงก็จะกลายเป็นจุดเชื่อมต่อกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว – สำโรง) ในอนาคตราคาที่ดินในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก โดยราคาขายของที่ดินเฉลี่ยรอบๆ สถานีสำโรงจะอยู่ที่ประมาณ 2– 2.5 แสนบาทต่อตารางวา ในขณะที่พื้นที่ไกลออกไปก็จะลดหลั่นลงไปตามระยะทางที่ไกลออกไปจากเขตกรุงเทพมหานคร เช่น รอบๆ สถานีเอราวัณจะอยู่ประมาณ 1– 1.5 แสนบาทต่อตารางวา เป็นต้น ราคาที่ดินในบริเวณนี้มีการปรับขึ้นมา 10 – 30% จากช่วง 2 – 3 ปีก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจจะมีผลให้ราคาขายคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ในอนาคตมีการปรับขึ้นในอัตราเดียวกันได้ เพราะที่ดินราคาสูงขึ้นคอนโดมิเนียมที่จะเปิดขายใหม่ในอนาคตก็ต้องขายแพงขึ้นในอัตราเดียวกันได้

สำหรับพื้นที่ส่วนต่อขยายตามแนวพื้นที่ตั้งแต่สถานีหมอชิตไปถึงสถานีคูคตนั้นเป็นอีกทำเลที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมาตั้งแต่ปี2558 เพราะความชัดเจนของการก่อสร้างนั้นมีมากขึ้นและมีการเริ่มก่อสร้างแบบเป็นรูปธรรมชัดเจนแล้ว แต่ทำเลที่มีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นนั้นอาจจะไม่ใช่ตลอดแนวเส้นทางเพราะว่าบางทำเลเป็นที่ดินของหน่วยงานราชการ วัด กรมทหาร ทำให้เหลือที่ดินในการพัฒนาไม่มากนัก อัตราการขายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 65% เนื่องจากมีโครงการที่ขายหมดแล้วหลายโครงการ แม้จะเป็นโครงการที่เปิดขายมาไม่นานก็ตามราคาขายของคอนโดมิเนียมในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวอยู่ที่ประมาณ 7.5 หมื่นบาทต่อตารางเมตร แต่ราคายังคงแตกต่างกันค่อนข้างมาก บริเวณรอบๆ ห้าแยกลาดพร้าวอาจจะมากกว่า 1.2 แสนบาทต่อตารางเมตร ช่วงสี่แยกรัชโยธินจะอยู่ที่ต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อตารางเมตร ถ้าไกลออกไปอย่างแถวๆ สะพานใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 7.3 หมื่นบาทต่อตารางเมตรเท่านั้น แม้ว่าโครงการที่เปิดขายใหม่แถวสะพานใหม่จะมีราคาขายมากกว่า 8 หมื่นบาทต่อตารางเมตรแล้วก็ตาม

บริเวณที่น่าจะเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพมากที่สุดของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต – คูคต คือ พื้นที่รอบๆ สถานีหมอชิต รัชโยธิน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม วัดพระศรีมหาธาตุ และสะพานใหม่ รอบๆ สถานีเหล่านี้น่าจะมีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นอีกมากมายในอนาคตอย่างแน่นอน โดยสถานีที่อยู่บริเวณจุดตัดของถนนสายสำคัญๆ จะมีศักยภาพน่าสนใจกว่าสถานีอื่นๆ และบริเวณที่เป็นจุดตัดกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่น เช่น ตรงสถานีสี่แยกหลักสี่ที่ตัดกับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู แต่บางสถานีอาจจะมีข้อจำกัดบางอย่าง สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่พื้นที่โดยรอบส่วนหนึ่งเป็นของมหาวิทยาลัย สถานีกรมทหารราบที่ 11 ที่พื้นที่โดยรอบเป็นของทหาร

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,224 วันที่ 5 - 7 มกราคม พ.ศ.2560