ส่อง 10 อุตสาหกรรม ปี60

03 ม.ค. 2560 | 09:00 น.
ในมุมมองของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ได้ประเมินทิศทางของภาคอุตสาหกรรมในปี 2560 คาดว่าจะมีแรงส่งที่ดีจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่องจากปี 2559 นำโดยการลงทุนจากภาครัฐ และภาคการท่องเที่ยว การบริโภคและการใช้จ่ายของภาคเอกชน ที่จะเพิ่มขึ้นจากรายได้ของเกษตรกรที่ปรับตัวดีขึ้นจากราคาพืชผลทางการเกษตร ประกอบกับรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาต่อเนื่อง การลงทุนของภาคเอกชนจะเติบโตตามการลงทุนของภาครัฐ

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง จะเป็นเรื่องของแนวโน้มการค้าโลกที่ยังมีความไม่แน่นอน แต่ทาง ส.อ.ท.ยังมั่นใจ ถึงภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่จะส่งผลให้ 10 กลุ่มอุตสาหกรรม ในปี 2560 ยังเป็นดาวรุ่งได้

tp7-3223-c  วัสดุก่อสร้างได้แรงหนุนภาครัฐ

โดยนายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ชี้ให้เห็นภาพรวมภาคอุตสาหกรรมไทยในปี 2560 ว่าอุตสาหกรรมที่สำคัญหลักๆ จะได้แรงหนุนจากปัจจัยในประเทศดังกล่าว อย่างอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง จะได้อานิสงส์จากการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมใน 20 โครงการ วงเงิน 1.4 ล้านล้านบาท รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ และการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ ในตลาดต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่มีการขยายตัวทางด้านการค้า รวมถึงโอกาสการส่งออกวัสดุก่อสร้างไปยังประเทศ CLMV ที่มีการขยายตัว จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ส่งผลให้อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างเติบโตไปพร้อมกับการขยายตัวของประเทศเพื่อนบ้าน

แต่ก็ต้องติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ที่อาจจะล่าช้ากว่ากำหนด รวมถึงหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง อาจกระทบต่อความต้องการในภาคที่อยู่อาศัย

ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์ คาดว่าการส่งออกรถยนต์จะอยู่ที่ 1.22 ล้านคัน ส่วนยอดขายในประเทศจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.8 แสนคัน ที่ได้อานิสงส์จากรถยนต์ในโครงการรถคันแรกจะครบอายุการถือครองในช่วงกลางปี 2560 คาดว่าจะมียอดซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้นประมาณ 1-2 หมื่นคัน และจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามมาอีกมาก เนื่องจากรถยนต์ในโครงการรถคันแรกมีกว่า 1.25 ล้านคัน และในจำนวนนี้คาดว่าจะเปลี่ยนรุ่นใหม่ 10-20 % หรือประมาณ 1.25-2.5 แสนคัน ส่วนจะเป็นไปตามที่คาดการณ์หรือไม่นั้น ก็จะต้องติดตามราคาสินค้าเกษตรว่าจะกลับมาตกต่ำหรือไม่ รวมถึงหนี้ครัวเรือน และสถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อด้วย

 อิเล็กทรอนิกส์ส่งออกยังดี

ส่วนอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ คาดว่าตลาดภายในประเทศ จะมียอดขายเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของคอนโดมิเนียม และที่อยู่อาศัย ทำให้มียอดซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ประกอบกับการบริโภคภาคเอกชนที่ทยอยปรับตัวดีขึ้นตามรายได้ของเกษตรกร รวมทั้งการรองรับการขยายการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ตามการส่งเสริมการลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และคาดว่าการส่งออกจะปรับตัวดีขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะตลาดในสหรัฐอเมริกา และตลาดอาเซียน ที่ฟื้นตัว แต่ทั้งนี้ ต้องเฝ้าดูการการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ที่ยังไม่แน่นอน การแข่งขันของสินค้ามาเลเซียและเวียดนาม รวมถึงความผันผวนของตลาดที่อยู่ช่วงเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี

สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม คาดว่าตลาดในประเทศจะปรับตัวจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับความต้องการเสื้อผ้าสีดำที่ขยายตัวต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2559 การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศ รวมถึงการส่งออก คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดในอาเซียน อย่างไรก็ตาม การที่จีนและไต้หวัน ได้เข้าไปลงทุนสิ่งทอต้นนํ้าในเวียดนาม อาจทำให้ความต้องการนำเข้าสินค้าจากไทยลดลง โดยเฉพาะสินค้าเส้นด้าย ผ้าผืน เป็นต้น

 อาหารโตตามการบริโภคเพิ่ม

ขณะที่อุตสาหกรรมอาหาร คาดว่าจะได้อานิสงส์ที่ดีจากผลผลิตทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับทิศทางการบริโภคภายในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว สอดรับการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ทำให้เกิดความต้องการต่อสินค้าอาหารเพิ่มมากขึ้นตาม รวมถึงมีการเติบโตตามการส่งเสริมการลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคตหรือการแปรรูปอาหาร แต่ในส่วนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อาจจะเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงของผู้ผลิตรายใหญ่ การขาดแคลนวัตถุดิบ เป็นต้น

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติก จะขยายตัวตามความต้องการในประเทศจากอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่าง วัสดุก่อสร้าง อาหารและเครื่องดื่ม ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าการขยายตัวของตลาดอาเซียน และการค้าชายแดน จะทำให้ความต้องการในสินค้าผลิตภัณฑ์พลาสติกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความต้องการของกลุ่ม CLMV ส่วนการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกานั้น น่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงต้นปี 2560 แต่ก็ต้องระวังภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่มีการฟื้นตัวไม่แน่นอน รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

 ปิโตรเคมีมีอาเซียนรองรับ

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมปิโตรเคมีจะมีแนวโน้มขยายตัวตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และการเติบโตของอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง ยานยนต์ บรรจุภัณฑ์พลาสติก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ เป็นต้น และแนวโน้มการส่งออก จะขยายตัวได้ตามการเติบโตของกลุ่มประเทศอาเซียนและ CLMV อีกทั้ง การพัฒนาหรือลงทุนตามการส่งเสริมการลงทุนใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย แต่ก็ต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากความต้องการสินค้าที่มีจำกัดจากภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร กลุ่มประเทศตะวันออกกลางมีการผลิตพลาสติกสำเร็จรูป เพื่อเข้ามาตีตลาดในประเทศมากขึ้น

ส่วนอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์นั้น คาดว่าปริมาณความต้องการในประเทศ จะขยายตัวตามการใช้จ่ายและโครงการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ การขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ การขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อสร้าง และเครื่องสำอาง ส่วนตลาดส่งออกน่าจะรักษาระดับการขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่ก็ต้องระวังภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาของประเทศคู่ค้าอย่างจีน ที่คาดว่าจะชะลอตัว เนื่องจากไทยมีสัดส่วนการส่งออกเคมีภัณฑ์ไปจีนสูง

 ตลาดเครื่องหนังขยายตัว

ขณะที่อุตสาหกรรมหนังและผลิตภัณฑ์หนัง มีแนวโน้มทรงตัวต่อเนื่องจากปี 2559 ซึ่งมีแรงหนุนจากยอดขายในกลุ่มลูกค้าประเทศ CLMVแต่จะเป็นสินค้าระดับกลางค่อนไประดับล่าง ที่มีแนวโน้มปรับตัวดี ส่วนการส่งออกหนังฟอก เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตสินค้าของจีน ฮ่องกง และเวียดนาม คาดว่าจะยังมีความต้องการต่อเนื่อง และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงน่าจะส่งผลดีต่อการส่งออก ส่วนตลาดในประเทศ หนังและผลิตภัณฑ์หนังฟอก หนังอัด คาดว่าจะขยายตัวได้จากการเติบโตของอุตสาหกรรมต่อเนื่องอย่าง ยานยนต์ เฟอร์นิเจอร์ รวมทั้ง จำนวนนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง ที่น่าจะส่งผลให้เครื่องหนักประเภทกระเป๋าและรองเท้ามียอดขายเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัจจัยเสี่ยง น่าจะมาจากการขาดแคลนแรงงานมีฝีมือ ต้นทุนแรงงานสูง ภาวะการแข่งขันที่สูง

สุดท้ายเป็นอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ คาดว่าจะเติบโตตามการขยายตัวของคอนโดมิเนียมและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ตามแนวรถไฟฟ้าสายต่างๆ ส่วนตลาดต่างประเทศ การส่งออกไปยังตลาดเพื่อนบ้านกลุ่ม CLMV มีแนวโน้มมากขึ้น โดยกลุ่มที่ขยายตัวดีจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ เหล็ก และกลุ่มเครื่องนอน แต่ยังต้องระวังเรื่องความสามารถในการแข่งขันของสินคาไทย ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากค่าแรงงาน ราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น รวมถึงในปี 2560 สหภาพยุโรป จะออกกฎระเบียบ เพื่อตรวจสอบที่มาของไม้ที่นำมาใช้ในการผลิตด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,223 วันที่ 1 - 4 มกราคม 2560