CMOประกาศขยายธุรกิจสร้างแหล่งท่องเที่ยวเต็มสูบ

26 ธ.ค. 2559 | 07:57 น.
“ซีเอ็มโอ” ประกาศลุยธุรกิจสร้างแหล่งท่องเที่ยวเสริมรายได้ รักษาจุดยืนผู้นำอีเว้นท์แห่งอาเซียน หลังปลายปีรับงานใหญ่สร้างอาคารและจัดแสดงนิทรรศการ “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” ชี้ภาพรวมตลาดอีเว้นท์ปี 60 กลับมาคึกคัก หวั่นการแข่งขันสูง

นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO เปิดเผยว่า ขณะนี้ภาพรวมธุรกิจอีเว้นท์ รวมถึงงานประเภทการจัดประชุมสัมมนา และงานเอ็กซ์โปต่างๆ เริ่มกระเตื้องขึ้น โดยคาดว่าจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติในช่วงต้นปี 2560 ซึ่งเห็นได้จากที่ภาครัฐออกมาตราการ “ช้อปช่วยชาติ” ที่สามารถนำรายจ่ายมาลดหย่อนภาษีได้นั้น ก็เป็นการกระตุ้นกำลังซื้อให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่งผลให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนในแต่ละค่าย ต่างออกแคมเปญและเริ่มจัดกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของ CMO ก็ได้ปรับแผน เพื่อฟื้นฟูธุรกิจ โดยบริษัทฯ เร่งดำเนินงานของลูกค้าเดิมที่ได้รับงานแล้ว บวกกับเดินหน้าหาลูกค้าใหม่

ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล โดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่ อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) จ้างให้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างอาคารพร้อมจัดแสดงนิทรรศการ “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” ที่ท้องสนามหลวง บนพื้นที่ 1,000 ตร.ม. โดยนิทรรศการจัดขึ้น เพื่อเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ที่เป็นศูนย์ รวมจิตใจของประชาชนชาวไทย และเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอย่างหาที่สุดมิได้

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMO กล่าวอีกว่า นอกจากโปรเจกต์ใหญ่ส่งท้ายปีดังกล่าว บริษัทฯ ยังมีงานพัฒนาธุรกิจสร้างแหล่งท่องเที่ยว (Tourist Attraction) ที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น โดยเตรียมเปิดตัวโชว์ “หิมพานต์ อวตาร” อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2560 ซึ่งคาดว่าจะทำรายได้ 200 ล้านบาทต่อปี

ขณะเดียวกันในส่วนของธุรกิจสวนสนุก “อิเมจิเนีย เพลย์แลนด์” (Imaginia Playland) บริษัทได้ขยายงานไปยังต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยได้ทำสัญญาสร้าง Imaginia Zone ให้กับ Little Prince Kids Theme Park สวนสนุกในเมืองต้าเหลียน ประเทศจีน โดยบริษัทฯ จะนำแนวคิดในลักษณะนี้ ขยายไปยังประเทศอื่นๆ อย่างต่อเนื่องภายใน 5 ปี ข้างหน้า

ทั้งนี้ ผลประกอบการ 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 59) บริษัทฯ มีรายได้รวม 800 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาสสุดท้ายของปี ก็มียอดขายที่น่าพอใจโดยพยายามจะรักษาเป้าปีนี้ ให้ใกล้เคียงกับที่ตั้งไว้ 1,400 ล้านบาท

สำหรับทิศทางธุรกิจอีเว้นท์ ปี 2560 มีแนวโน้มเติบโตไปในทางที่ดี เชื่อว่า ผู้ประกอบการภาคเอกชน จะเริ่มกลับมาจัดกิจกรรมการตลาดเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยเฉพาะในกลุ่มงาน Entertainment ส่วนใหญ่เป็นงานที่ไม่ได้ยกเลิก แต่จะเลื่อนไปจัดในช่วงเดือน มี.ค. - เม.ย.ปี 60 แทน

นอกจากนี้ ทิศทางการเติบโตของธุรกิจอีเว้ นท์ไทย จะเข้าไปมีบทบาทมากขึ้น ในตลาด  CLMV  (กัมพูชา,ลาว,เมียนมาร์ และเวียดนาม)  ซึ่งจะรุกตลาดไปพร้อมกับแบรนด์ ของไทยที่มีแผนจะขยายงานในต่ างประเทศ ทำให้ต้องมีการจัดกิจกรรมการตลาด ส่งผลให้ภาพรวมอีเว้นท์เติบโตไปด้วย