การเคลื่อนไหวของดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียซึ่งอยู่ในช่วงวันคริสมาสต์ ปริมาณการซื้อขายวันนี้จนถึงสัปดาห์หน้าคาดว่าจะชะลอตัวลง ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยสร้างผลตอบแทนรวมตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันเป็นอันดับ1ในตลาดหุ้นอาเซีย หุ้นอิงสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าหุ้นอิงเศรษฐกิจในประเทศ นำโดยกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมีและอาหาร ในสภาพแวดล้อมอัตราดอกเบี้ยต่ำทั่วโลก เราคาดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงโดยเฉพาะหุ้นที่เสนออัตราผลตอบแทนสูงจะเป็นตัวดึงดูดนักลงทุน ราคาน้ำมันดิบมีโอกาสปรับตัวขึ้นในปีหน้าเนื่องจากผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกตกลงปรับลดกำลังการผลิตลง แต่ผลตอบแทนการลงทุนทองคำปีนี้ให้ผลตอบแทนเพียง 6.5% ซึ่งก็ต่ำกว่าแนวโน้มผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาว
ในสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยจะมีปริมาณการซื้อขายที่ลดลง เราคาดดัชนีตลาดหุ้นไทยทรงตัวท่ามกลางแรงขายทำกำไร เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดยาว หากดัชนี้ลดลงจะทำให้มีโอกาสในการเข้าซื้อหุ้นล่วงหน้าก่อนที่ตลาดหุ้นจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในเดือนม.ค. บนคาดการณ์แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงอยู่ในระดับปานกลางกอปรกับการเติบโตของตัวขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง อาทิ เช่น กำลังการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น, โครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยต่างประเทศ เราคาดธนาคารกลางสหรัฐฯกลางสหรัฐฯอาจหยุดชั่วคราวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีกหลายเดือนหลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐจากการประชุม FOMC ในเดือนธ.ค. ก่อนจะกลับมาปรับเพิ่มอีกครั้งในปลายไตรมาส 3/60 น่าจะช่วยหนุนให้กระแสเงินทุนกลับเข้ามาได้ จังหวะการลงทุนระยะสั้นใช้เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันและเส้นแนวโน้มบริเวณ 1500 จุดเป็นหลักหากดัชนียังยืนเหนือแนวรับที่ให้ไว้ได้ก็ยังคงมองสัญญาณในด้านบวก ส่วนแนวต้านมองบริเวณ 1550 จุด
ที่มา:บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง