บริการทางการแพทย์และความงามธุรกิจเด่น 6 ปีซ้อน

22 ธ.ค. 2559 | 06:18 น.
คนไทยหันดูแลสุขภาพ และความงามมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจบริการทางการแพทย์ และความงาม เป็นธุรกิจดาวเด่นอันดับหนึ่งต่อเนื่อง 6 ปี

นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจ 10 อันดับธุรกิจเด่นในปี 2560 ว่า ธุรกิจที่ยังคงไปได้ดีอันดับ 1 ยังคงเป็นธุรกิจบริการทางการแพทย์ และความงาม เหมือนปีที่ผ่านมา และติดต่อกันเป็นปีที่ 6  เนื่องจากผู้คนยังคงให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพ และความงาม รวมทั้งบริการทางการแพทย์และความงามของไทยมีคุณภาพดีราคาไม่แพง รวมทั้งกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านมีความเชื่อมั่น และมาใช้บริการมากขึ้น ขณะที่อันดับ 2 เป็นธุรกิจเครื่องสำอาง และครีมบำรุงผิว อันดับ 3 เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ช ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐรวมทั้ง สามารถตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภค ที่หันมาทำธุรกรรมต่างๆผ่านรับบออนไลน์มากขึ้น ขณะเดียวกัน ปี2560 ธุรกิจฟอกย้อม จะเป็นธุรกิจดาวร่วงอันดับแรก ตามมาด้วยธุรกิจหัตถกรรม และ ธุรกิจนิตยสาร เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่เข้ามาทดแทน ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ในการทำธุรกิจปีหน้า จะต้องคำนึงถึงการเข้ามาของดิจิทัล และการที่รัฐบาลส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลมากขึ้น รวมทั้งการเป็นสังคมเมือง และการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น ทำให้การทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องได้รับความนิยมมากขึ้น นอกจากนี่กระแสรักสุขภาพ และดูแลตนอองมากขึ้น จึงทำให้ธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภค

โดยคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 2 จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ การกระจายเม็ดเงินสู่ภูมิภาค รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ที่จะมีผลต่อการบริโภคภาคเอกชน ขณะเดียวกันการส่งออกน่าจะกลับมาขยายตัวได้ 1.4% ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี2560 จะขยายตัวเฉลี่ย 3.6%

แต่ยังมีความเสี่ยง จากนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ ที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการค้าของโลกให้เกิดความไม่แน่นอน นอกจากนี้เศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว และสัดส่วนหนี้สินต่อครัวเรือนที่ยังสูง อาจส่งผบต่ออำนาจซื้อของประชาชน และสถาบันการเงินเองก็จะระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น