ปลัดพาณิชย์สั่งการทุกจังหวัดออกตรวจเข้มราคาสินค้าพร้อมรายงานผลรายวัน

22 ธ.ค. 2559 | 04:29 น.
นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบนโยบายให้ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค รวมทั้งพาณิชย์จังหวัดในทุกจังหวัดดูแลค่าครองชีพของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยตรวจสอบและกำกับราคาสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นธรรมกับทุกฝ่ายไม่เอาเปรียบกัน

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้า ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน รวมถึงเชื่อมโยงผู้ผลิต ผู้ค้า และผู้บริโภคให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล การดูแลค่าครองชีพของประชาชนจึงเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงฯ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ สินค้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ คือ กระเช้าของขวัญ

ล่าสุดพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและกำกับราคาสินค้าให้มีความเป็นธรรมสอดคล้องกับต้นทุนโดยทุกจังหวัดได้รายงานสถานการณ์ให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ทราบรายวัน อีกทั้งผู้บริหารกระทรวงฯ ได้หมุนเวียนไปตรวจสอบราคาสินค้าในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดสม่ำเสมอ

สำหรับในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่นี้ สินค้าที่ได้รับความนิยมสูง คือ กระเช้าของขวัญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบผู้ประกอบการ ห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ต ปิดป้ายแสดงราคากระเช้าหรือชุดของขวัญพร้อมแสดงรายการสินค้า ขนาดน้ำหนักต่อหน่วย ปริมาณการบรรจุและราคาสินค้าแต่ละรายการที่บรรจุในกระเช้าหรือชุดของขวัญให้ชัดเจนเพื่อให้ผู้บริโภคได้เปรียบเทียบราคาก่อนตัดสินใจซื้อและย้ำให้สินค้าที่นำมาบรรจุในกระเช้าต้องมีคุณภาพดี มีอายุของสินค้าไม่น้อยกว่า 6 เดือน ผลการลงพื้นที่พบว่า สถานการณ์ด้านราคาสินค้ายังอยู่ในภาวะปกติ และผู้ประกอบการได้ให้ความร่วมมืออย่างเคร่งครัด  หากพบการไม่ปิดป้ายแสดงราคาหรือปิดป้ายไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จะดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากประชาชนผู้บริโภคพบเห็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย แจ้งได้ที่สายด่วน กรมการค้าภายใน 1569

ทั้งนี้กระทรวงฯ ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้นำสินค้าข้าว และสินค้าอินทรีย์ มาจัดกระเช้าเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งผู้บริโภคได้ตอบรับเป็นอย่างดี

ด้านการบรรเทาค่าครองชีพของประชาชนได้จัดงานธงฟ้าราคาประหยัดและร้านอาหารในโครงการหนูณิชย์พาชิมทั่วประเทศเพื่อลดค่าครองชีพและเพิ่มทางเลือกให้แก่ประชาชนในการซื้อสินค้าที่มีคุณภาพราคายุติธรรม