กรมชลฯเผยน้ำท่วมภาคใต้ส่วนใหญ่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว  

16 ธ.ค. 2559 | 07:25 น.
กรมชลประทาน เผยสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนใหญ่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ส่วนระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำลดลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตือนรับมือฝนหนักอีกรอบในระยะนี้

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ว่า  ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำและพื้นที่การเกษตรบางแห่ง ซึ่งกรมชลประทานได้ส่งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่แล้ว ดังนี้

จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ฝนที่ตกหนักเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 59 ทางตอนบน ในเขตอ.ท่าฉาง อ.ไชยา และ อ.ท่าชนะ วัดปริมาณฝนสูงสุดได้ 90 มิลลิเมตร 144 มิลลิเมตร และ 175 มิลลิเมตรตามลำดับ ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มต่ำคาดว่าในช่วงเที่ยงของวันนี้ น้ำในคลองไชยาจะล้นตลิ่งเข้าท่วมบริเวณตลาดไชยา ซึ่งโครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี ได้แจ้งเตือนไปยังเทศบาลและอบต.ในพื้นที่ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว ส่วนในพื้นที่ อ.เคียนซา อ.บ้านนาเดิม และ อ.บ้านนาสาร ยังคงมีน้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มต่ำและพื้นที่การเกษตรเป็นบางแห่งริมแม่น้ำตาปี ระดับน้ำในแม่น้ำตาปียังคงมีแนวโน้มลดลง ส่วนอ.พุนพิน ระดับน้ำยังคงท่วมขังที่ลุ่มต่ำบริเวณริมแม่น้ำตาปีเช่นกัน รอการระบายลงสู่ทะเลเนื่องจากได้รับอิทธิพลของน้ำทะเลขึ้น-ลง

จังหวัดนครศรีธรรมราช ระดับน้ำในตัวเมืองนครศรีธรรมราชและพื้นที่โดยรอบๆ ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว  แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่การเกษตรบางแห่ง สำหรับพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง มีระดับน้ำลดลงโดยเฉลี่ยประมาณ 5 – 8 เซนติเมตร การระบายน้ำออกจากพื้นที่ขึ้นอยู่กับอิทธิพลของน้ำทะเลด้วย ในส่วนของคลองระบายน้ำสายต่างๆ ระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง การระบายน้ำจะใช้ประตูระบายน้ำตามแนวคันกั้นน้ำแบ่งน้ำเค็ม-น้ำจืดระบายน้ำออกจากพื้นที่ แต่ยังมีพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วนที่ไม่สามารถระบายออกได้ ต้องใช้เครื่องสูบน้ำในการระบายน้ำ กรมชลประทาน ได้ส่งเครื่องสูบน้ำ รวม 64 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ รวม 44 เครื่อง รถขุดแบคโฮ รวม 10 คัน เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง

จังหวัดสงขลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ รวม 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ และ     อ.สทิงพระ โดยมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตชุมชนริมทะเลสาบ แนวโน้มระดับน้ำลดลง ถนนสายหลักและพื้นที่เศรษฐกิจไม่ได้รับผลกระทบ พื้นที่ส่วนใหญ่ได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว กรมชลประทาน ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ รวม 52 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ รวม 10 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ภาคใต้ยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักในระยะนี้ เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณปลายแหลมญวน มีแนวโน้มว่าจะเคลื่อนลงสู่อ่าวไทยและผ่านภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่    15 -16 ธ.ค. 59 และมีแนวโน้มอ่อนกำลังลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งกรมชลประทาน ได้ให้ทุกโครงการชลประทานเฝ้าระวัง ติดตาม และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด