ซีพีเอฟร่วมมือรัฐ-เอกชนส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันฯ

16 ธ.ค. 2559 | 01:24 น.
ซีพีเอฟ จับมือ มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท  และหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพ (Japanese Chamber of Commerce หรือ JCC) ส่งมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนในโรงเรียน 5 แห่ง ส่งเสริมเยาวชนบริโภคไข่ไก่ คุณภาพปลอดภัย ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ ช่วยแก้ปัญหาทุพโภชนาการของเด็กในพื้นที่ห่างไกล พร้อมพัฒนาเป็นแหล่งผลิตอาหารสำหรับชุมชน ก่อให้เกิดการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน

นายวิบูลย์ กิ่งสุวรรณ  นายอำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เป็นการบูรณาการงานร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนไทยในอำเภอน้ำเกลี้ยงได้เข้าถึงแหล่งอาหารอย่างเพียงพอ เพื่อโภชนาการที่ดีขึ้น สร้างความพร้อมในการเรียนรู้ รวมยังใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชนในการฝึกทักษะอาชีพแบบครบวงจรทั้งการผลิต และการจัดการ ที่สามารถต่อยอดเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนผู้ที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต

ดร.ชอุ่ม กรไกร ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1 กล่าวว่า โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน จะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อการเรียนรู้เยาวชน จำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ เพื่อการพัฒนาการด้านสมอง

ด้านนายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ กรรมการและรองเลขาธิการ มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท เปิดเผยว่า มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท สนับสนุนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์และเหล่าพนักงาน ร่วมกับ ซีพีเอฟ ได้น้อมนำแนวพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงห่วงใยในภาวะโภชนาการของเด็กและเยาวชน มาดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบันกว่า 27 ปีแล้ว ในแต่ละปี โครงการฯ มีขยายการสนับสนุนแก่โรงเรียนในระดับประถมศึกษาทั่วประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 50 แห่ง โดยมีภาคีเครือข่ายที่มีเจตนารมย์สอดคล้องกัน อย่าง JCC ซึ่งให้การสนับสนุนโครงการฯ มาตั้งแต่ปี 2543 ต่อเนื่องจนถึงปีนี้เป็นปีที่ 17  มุ่งเน้นการช่วยเหลือโรงเรียนที่มีปัญหาทุพโภชนาการโดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

“ตลอดระยะเวลา 17 ปีของความร่วมมือระหว่างมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ กระทรวงศึกษาธิการ และซีพีเอฟ ได้ช่วยเหลือโรงเรียนทั่วประเทศ 112 แห่ง  คิดเป็นมูลค่ารวม 25.52 ล้านบาท ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนในชนบทรวม 33,000 คน ได้มีอาหารอิ่มท้อง พร้อมต่อการเรียนรู้และมีทักษะอาชีพ” นายอภัยชนม์กล่าว

สำหรับในปีนี้ JCC ได้ร่วมสนับสนุนโครงการฯ รวม 1.52 ล้านบาท และจัดพิธีส่งมอบโครงการฯ แก่โรงเรียน 5 แห่ง ได้แก่ 1. โรงเรียนบ้านคูบ ตำบลคูบ อำเภอน้ำเกลี้ยง จังหวัดศรีสะเกษ 2.โรงเรียนบ้านโพธิ์กระสังข์ ตำบลโพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ 3.โรงเรียนบ้านแปดอุ้ม  ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี          4. โรงเรียนพยัคภูมิพิสัย ตำบลลานสะแก อำเภอพยัคภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม 5. โรงเรียนบ้านนาซาว ตำบลหนองหัวชา อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ

โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับการสนับสนุนโรงเรือนมาตรฐาน อุปกรณ์กรงตับ พันธุ์สัตว์,อาหารสัตว์สำหรับการเลี้ยงตลอดระยะเวลาการเลี้ยง 1 รุ่น คือ 56 สัปดาห์  การถ่ายทอดความรู้ และการส่งผู้เชี่ยวชาญมาติดตามให้คำแนะนำอย่างต่อเนื่อง  นักเรียน ครู และชุมชน ได้เรียนรู้ระบบการบริหารจัดการ และการพัฒนาความรู้สู่หลักสูตรการเรียนการสอนและหลักสูตรในท้องถิ่น เกิดการขยายผลสู่กิจกรรมอื่น การจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนของโรงเรียน เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน ที่สามารถต่อยอดเป็นอาชีพทางเลือกของนักเรียนและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้ต่อไป

ด้านซีพีเอฟ ได้ร่วมสนับสนุนปัจจัยการผลิตอาทิ พันธุ์สัตว์ และอาหารสัตว์ รวมทั้งส่งผู้เชี่ยวชาญถ่ายทอดความรู้ และคำแนะนำในการเลี้ยงและบริหารจัดการอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการและหลักสุขาภิบาล  จัดทำคู่มือการดำเนินงานโครงการฯ สำหรับครู และนักเรียน เพื่อให้สามารถดูแลโครงการฯ ได้อย่างเป็นระบบ มีผลผลิตเป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อให้สามารถโรงเรียนเหล่านี้สามารถผลิตอาหารที่ปลอดภัยได้เอง ลดค่าใช้จ่ายสำหรับจัดซื้อวัตถุดิบอาหารกลางวัน รวมทั้งยังสามารถจำหน่ายผลผลิตให้ชุมชนเพื่อเป็นรายได้ของโรงเรียน นำไปสู่การพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน