EGATi ยืนยันเข้าซื้อหุ้นเหมืองถ่านหินอินโดฯโปร่งใส

14 ธ.ค. 2559 | 10:27 น.
EGATi  เผยการลงทุนซื้อหุ้นเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานรองรับการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินของ EGATi ในต่างประเทศในอนาคต ยืนยันขั้นตอนการลงทุนโปร่งใส ผ่านการพิจารณาจากหน่วยงานกำกับดูแลทุกระดับ

นายวัชรา เหมรัชตานันต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กฟผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EGATi) กล่าวถึงการลงทุนเข้าซื้อหุ้นบริษัท Adaro Indonesia (AI) ซึ่งประกอบกิจการเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2559 มูลค่าการลงทุนรวม 325 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.17 หมื่นล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 11 – 12 ซึ่งการที่ EGATi เข้าไปลงทุนซื้อหุ้นบริษัทดังกล่าวนั้นถือว่ามีความคุ้มค่าในการลงทุน เพราะมูลค่าภาพรวมของบริษัท AI จากที่มีการประเมินมีกว่า 100,000 ล้านบาท ซึ่ง EGATi มีเงินที่สามารถไปลงทุนได้เพียงร้อยละ 11.53 เท่านั้น แต่ EGATi มีสิทธิการร่วมบริหารโดยได้ส่งตัวแทนเข้าไปเป็น 1 ใน 6 ของคณะกรรมการบริษัท AI (Board of Commissioners) นอกจากนี้ยังได้สิทธิในการจัดสรรถ่านหินสำหรับบริษัทตามสัดส่วนที่ EGATi ถือหุ้นอยู่ นอกจากนี้ราคาที่ซื้อขายกับ AI เป็นช่วงที่ถ่านหินมีราคาต่ำ

ถือว่าลดความเสี่ยงในการลงทุนไปมากแล้ว โดยช่วงเวลาที่ EGATi เข้าไปทำสัญญาในการจะซื้อจะขายหุ้นกับบริษัท AI ขณะนั้นราคาถ่านหินในตลาดโลกอยู่ที่ตันละประมาณ 50 - 55 ดอลล่าร์สหรัฐ แต่ปัจจุบันราคาของถ่านหินในตลาดโลกขึ้นไปอยู่ที่ประมาณตันละ 80 - 100 ดอลล่าร์สหรัฐ ส่งผลให้ EGATi จะได้กำไรจากเงินปันผลในช่วงปลายปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อความมั่นคงของบริษัท

นายวัชรา กล่าวต่อไปว่า การเข้าซื้อหุ้นบริษัท AI ของ EGATi มีขั้นตอนเป็นไปตามระเบียบการบริหารรัฐวิสาหกิจ โดยมีการจ้างบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกเข้ามาศึกษาในด้านกฎหมาย การตรวจสอบทรัพย์สิน บัญชีและภาษีและด้านเทคนิค อีกทั้งยังมีการกำกับดูแลรายละเอียดของการดำเนินงานและการบริหารความเสี่ยงทั้งหมดซึ่งต้องเสนอเพื่อพิจารณาตามลำดับขั้น ได้แก่ คณะกรรมการ EGATi คณะกรรมการการไฟฟ้า

ฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กระทรวงพลังงาน และ ครม. ซึ่งในทุกระดับจะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆ ตรวจสอบความถูกต้องและโปร่งใสของการดำเนินโครงการ อีกทั้งบริษัท AI ที่เข้าไปลงทุนนั้น มีบริษัทแม่คือ บริษัท Adaro Energy ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของอินโดนีเซียที่ได้รับการตรวจสอบการดำเนินงานจากหน่วยงานภาครัฐของอินโดนีเซียทำให้มีความน่าเชื่อถือในการดำเนินธุรกิจ

“การลงทุนในครั้งนี้มีความโปร่งใส เพราะมีหน่วยงานกำกับของภาครัฐคอยตรวจสอบการดำเนินงานในทุกขั้นตอน และที่สำคัญ EGATi ยึดมั่นในการดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลมาโดยตลอด และพร้อมที่จะให้ตรวจสอบได้ ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) EGATi เพื่อพิจารณาโครงการ ได้มีความเคร่งครัดต่อการดำเนินงานทุกโครงการ ทั้งนี้ คณะกรรมการบอร์ด รวมทั้งฝ่ายบริหารทราบดีว่า EGATi มีสถานภาพเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่ง กฟผ. ถือหุ้น 100 เปอร์เซ็น ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะตรวจสอบโครงการลงทุนนี้อยู่แล้ว แม้ไม่มีผู้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบก็ตาม” นายวัชรา เหมรัชตานันต์ กล่าวยืนยัน

ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวยังถือเป็นการสร้างความมั่นคงและประกันความเสี่ยงในด้านเชื้อเพลิงให้กับการลงทุนของ EGATi ในโรงไฟฟ้าถ่านหินกวางจิ 1 ซึ่ง EGATi เข้าไปลงทุนก่อสร้างในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และลักษณะการลงทุนดังกล่าวก็เป็นไปในแนวทางเดียวกับการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ที่มีการถือหุ้นในธุรกิจต้นน้ำคือเหมืองถ่านหิน เพื่อลดความเสี่ยงในการจัดหาเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้า เป็นต้น อีกทั้งเหมืองถ่านหินของบริษัท AI มีกำลังการผลิตสูงเป็นอันดับ 2 และมีปริมาณถ่านหินสำรองเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ซึ่งจะมีความมั่นคงในการดำเนินกิจการไปอีกอย่างน้อย 20 ปี นอกจากนี้ ถ่านหินที่ผลิตจากเหมืองแห่งนี้เป็นถ่านหินซับบิทูมินัส ที่มีคุณภาพดีมีค่ากำมะถันต่ำ  ทำให้ไม่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม มีแบรนด์การค้าที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกว่า Envirocoal มีลูกค้าถึง 14 ประเทศทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น จีน อินเดีย เกาหลีใต้ สเปน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการลงทุนถือเป็นความลับทางธุรกิจที่จะไม่เปิดเผยต่อบุคคลหรือสาธารณชน ทั้งนี้ ทางบริษัทพร้อมจะรับการตรวจสอบจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือหน่วยงานตรวจสอบอื่นของภาครัฐ ซึ่งการที่บริษัท EGATi เป็นรัฐวิสาหกิจ ทำให้การดำเนินการของบริษัทจะมีการตรวจสอบมากกว่าบริษัทเอกชนทั่วไป