ทายาทเศรษฐีหนีดอกเบี้ยต่ำ ซื้อ‘ทรัพย์บังคับคดี’ทำกำไร

10 ธ.ค. 2559 | 07:00 น.
กรมบังคับคดีทายาทเผยเศรษฐีรุ่นเยาว์นิยมเข้าประมูลทรัพย์ขายทอดตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 30% ขยายช่องทางลงทุนหนียุคดอกเบี้ยต่ำ เน้นซื้อคอนโดมิเนียม นำไปตกแต่งขายต่อหรือปล่อยเช่าทำไร เตรียมจัดมหกรรมอัญมนีมูลค่า 300 ล้านบาทไตรมาสแรกปีหน้า ตั้งเป้าขายทรัพย์ปีนี้ 1 แสนล้านบาท

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า จากการรวมรวมสถิติการขายทอดตลาดทรัพย์สินของกรมบังคับคดีในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ พบว่าจำนวนผู้ที่สนใจเข้ามาประมูลทรัพย์มีอัตราที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และที่สำคัญคือผู้เข้าร่วมประมูลหน้าใหม่ๆเข้ามาประมูลเพิ่มขึ้นจากปกติประมาณ 30%

“ในยุคที่ดอกเบี้ยต่ำ คนรุ่นใหม่ อายุ 20 ปีปลายๆ และอายุ 30ปีต้นๆที่เพิ่งจบการศึกษาจากต่างประเทศ มีฐานะพอมีเงินก้อน บ้างอาศัยทุนจากครอบครัว สนใจทรัพย์ของกรมบังคับคดีเป็นช่องทางเลือกในการลงทุนอีกช่องทาง”

นักลงทุนหน้าใหม่เหล่านี้ จะนิยมประมูลซื้อทรัพย์จำพวกห้องชุด หรือคอนโดมิเนียม นำไปตกแต่งแล้วปล่อยให้เช่า หรือขายต่อ ขณะเดียวกันยังมีเจ้าของกิจการใช้เวลาวันหยุดมาเลือกลงทุนในทรัพย์ของกรมบังคับคดี ที่จะมีทั้งที่ดินเปล่า ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด

“จากนี้ไปกรมบังคับคดี จะต้องหาช่องทางเข้าถึงเป้าหมายกลุ่มนี้มากขึ้น เพราะตอนนี้โพรไฟล์ของคนเปลี่ยนไปแต่คนหน้าใหม่เข้ามา ประมาณ 30%”

สำหรับปีงบประมาณนี้จะมีสำนักงานพร้อมขายทรัพย์ 26 แห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมาได้ทดลองนำทรัพย์ออกประมูลขายในวันหยุด (วันเสาร์) ที่สำคัญกรมบังคับคดีอยากเห็นประชาชนรายใหม่ๆเข้ามามากขึ้น เพราะหากประมูลขายเฉพาะวันทำงานจันทร์ถึงศุกร์ จะปิดกั้นคนทำงานประจำไม่สามารถเข้าถึง ซึ่งโดยหลักเศรษฐศาสตร์ ถ้าอุปสงค์มีมากกว่าอุปทานราคาที่จะประมูลจะมีการแข่งขันสูงมากขึ้นด้วย

กรมบังคับคดีกำหนดจัดงานมหกรรมขายทอดตลาดทรัพย์นอกพื้นที่ นำสินทรัพย์ที่ดินเปล่า ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด เปิดประมูล220 รายการ มูลค่า 583 ล้านบาท เปิดประมูลขายทอดตลาดในวันอาทิตย์ จำนวน 4 ครั้ง เริ่มครั้งแรกในวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมาครั้งที่ 2 วันที่ 18 ธันวาคม ครั้งที่ 3 วันที่ 8 มกราคม2560 และ ครั้งสุดท้าย วันที่ 29 มกราคม 2560 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นอกจากนี้กรมบังคับคดีอยู่ระหว่างการรวบรวมทรัพย์สินที่ได้มาจากคดีล้มละลาย เพื่อคัดแยกเป็นกลุ่มหรือประเภททรัพย์สิน โดยไม่นำออกประมูลคละ หรือรวมกับอสังหาริมทรัพย์ แต่จัดเป็นมหกรรมขายทอดตลาดอัญมณีหรือทรัพย์มีค่าโดยที่ผ่านมาได้เชิญผู้แทนจากสมาคมประเมินราคาอัญมณีเบื้องต้นแล้วประมาณกว่า 300 ล้านบาท คาดว่าจะนำออกประมูลไม่น่าจะเกินไตรมาแรกของปีงบประมาณ 2560

“ปีนี้ตั้งเป้าประมูลขายทรัพย์ 1 แสนล้านบาทโดยช่วงเดือนครึ่งที่ผ่านมาถือว่าออกตัวได้ดี โดยมียอดขายทรัพย์แล้ว 1.6 หมื่นล้านบาท เป็นยอดขายเดือนตุลาคมจำนวน 1.1 หมื่นล้านบาท และพฤศจิกายนครึ่งเดือนอีก 4,200 ล้านบาท”

สำหรับแผนดำเนินงานในปีงบประมาณ 2560 กรมบังคับคดียึดหลักเรื่องการเร่งผลักดันทรัพย์สินออกจากระบบการบังคับคดี โดยมุ่งดำเนินงานเชิงรุก ซึ่งเป้าดังกล่าวมีความท้ายและความน่าจะเป็นไปได้ภายใต้นโยบาย 4 ร. ประกอบด้วย 1. เร่งรัดประชุมคณะกรรมการกำหนดราคาทรัพย์ซึ่งการนำทรัพย์ออกประมูลขายแต่ละครั้ง ต้องทบทวนราคาเพื่อให้สำนักงานทั่วไปประเทศมีมาตรฐานประจำอย่างต่อเนื่อง

2. เร่งรัดติดตามคำสั่งของศาล ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่กำหนดการขายทรัพย์ต้องมีการขออนุญาตต่อศาลเพื่อให้ศาลอนุญาตจึงต้องเร่งติดตามในส่วนนี้

3. เร่งรัดการประกาศขายทอดตลาด เนื่องจากงานของกรมบังคับคดีเป็นกระบวนการที่เชื่อมโยงตั้งแต่โจทย์นำยึดอายัดทรัพย์ จากนั้นเมื่อศาลอนุญาตตามที่กรมบังคับคดีมีการขออนุญาตต่อศาลแล้วกรมบังคับคดี ต้องเร่งการประกาศขายทรัพย์เพื่อให้สามารถนำทรัพย์เข้าสู่ในส่วนของการที่จะออกประกาศขายได้โดยเร็ว4.เร่งรัดการผลักดันทรัพย์สินโดยจะใช้กลไกนี้เร่งรัดและติดตามทุกรอบ 15 วัน

“ด้วยนโยบาย 4 ร. คาดว่าจะมีส่วนทำให้การผลักดันขายทรัพย์ตามเป้าที่ตั้งไว้เกิดความเป็นจริงได้ทั้งสามารถผลักดันการขายทอดตลาดเพิ่มขึ้น ลดปริมาณคดีที่ค้างดำเนินการ และกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,215 วันที่ 8 - 10 ธันวาคม 2559