‘วันทูวัน’คว้างานทีโอที 143 ล้าน ผลประกอบการ Q3/59 โตเพิ่ม 5%

10 ธ.ค. 2559 | 01:40 น.
“วันทูวัน” บริษัทในกลุ่มสามารถ คว้างานโครงการบำรุงรักษาระบบคอลล์เซ็นเตอร์ และ บริการลูกค้าของทีโอที มูลค่า 143 ล้านบาท ขณะที่ก่อนหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่าระบบคอลล์เซ็นเตอร์อีก 15 ล้านบาท

นางสุกัญญา วนิชจักร์วงศ์ กรรมการ บริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า บริษัทได้รับการว่าจ้างในการให้บริการกับ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) คือ 1.การให้บริการบำรุงรักษาระบบ contact center ทั้งหมด 2 โครงการ ระยะเวลาโครงการ 12 เดือน มูลค่าโครงการรวม 28,114,464 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 2. การให้บริการบํารุงรักษาระบบงานบริการลูกค้าทั้งหมด 3 โครงการ ระยะเวลาโครงการ 12 เดือน และ 24 เดือน มูลค่า โครงการรวม 57,048,120 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 3. การให้บริการเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ระยะเวลาโครงการ 12 เดือน มูลค่าโครงการ 48,841,220 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) รวมมูลค่าทั้งสิ้น 134,003,804 บาท

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ วันทูวัน ได้รับการว่าจ้างจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บริการเช่าระบบ contact center ศูนย์รับแจ้งเหตุระยะเวลาโครงการ 3 เดือน มูลค่าโครงการ 3,852,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 2. การให้บริการเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ จํานวน 2 โครงการ ระยะเวลาโครงการ 3 เดือน และ 12 เดือน มูลค่าโครงการรวม 12,073,131 บาท (รวมภาษีมูลคาเพิ่ม) รวมมูลค่า 15,925,131 บาท

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2559 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนกับไตรมาสที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ จํานวน 239.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.3 ล้านบาทหรือคิดเป็น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการออกแบบ พัฒนา และ ติดตั้งระบบศูนย์บริการข้อมูลแบบเบ็ดเสร็จ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมารายได้ปรับตัวลดลงเล็กน้อย ประมาณ 2.9 ล้านบาทหรือคิดเป็น 1.2 % กลุ่มบริษัทมีกําไรสุทธิสําหรับไตรมาส 3 /2559 จํานวน 22.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6 ล้านบาทหรือคิดเป็น 49.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาทหรือคิดเป็น 12.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและการเพิ่มขึ้นของอัตรากําไรขั้นต้น โดยมีอัตรากําไรสุทธิต่อรายได้รวม 9.6% ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาสที่ผ่านมา

ขณะที่สถานการณ์การเงินเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2559 กลุ่มบริษัทมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้นจํานวน 967.2 ล้านบาท ลดลง 51.4 ล้านบาทหรือคิดเป็น 5.0% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดจากค่าเสื่อมราคาสําหรับงวดของอุปกรณ์ และ การลดลงของลูกหนี้ตามสัญญาเช่า การเงินเนื่องจากมีการชําระหนี้ หนี้สินรวมมีจํานวน 115.2 ล้านบาท ลดลง 64.5 ล้านบาทหรือคิดเป็น 35.9% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เกิดจาก เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นลดลง ส่วนของผู้ถือหุ้นรวมมีจํานวน 852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.1 ล้านบาทหรือคิดเป็น 1.6% เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,215 วันที่ 8 - 10 ธันวาคม 2559