กสอ.จัดโครงการช่วยเกษตรกรขายข้าวกว่า 500 ตัน

28 พ.ย. 2559 | 08:16 น.
ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาข้าวตกต่ำที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์นี้ และยังส่งผลถึงเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ขาดทุนจากการประกอบอาชีพและได้รับความยากลำบากกันเป็นจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้รัฐบาลและ กระทรวงอุตสาหกรรม  จึงมีนโยบายที่ต้องการช่วยเหลือชาวนา และรักษาเสถียรภาพราคาข้าวประจำปีการผลิต 2559/60 โดย กสอ. เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ร่วมให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือ และนโยบายเร่งด่วนดังกล่าว   จึงได้จัดทำโครงการ “เครือข่ายกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ช่วยชาวนาซื้อข้าว”  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการทำ CSR ร่วมกับเครือข่ายผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จากโครงการต่าง ๆ ของ กสอ. โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาสถานการณ์ที่ราคาข้าวกำลังตกต่ำ และกระตุ้นการบริโภคข้าวให้เพิ่มขึ้น รวมทั้งช่วยซื้อข้าวจากชาวนาในราคาที่เป็นธรรมซึ่งจากการจัดทำโครงการนี้เชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในการสนับสนุนนโยบาย “อุตสาหกรรมรวมใจช่วยชาวนาไทยขายข้าว” ของกระทรวงอุตสาหกรรมที่จะทำให้ราคาข้าวปรับตัวสูงและช่วยให้สถานการณ์ที่ได้รับผลกระทบต่างๆดีขึ้นต่อไปได้ตามลำดับ

สำหรับรายละเอียดของโครงการ “เครือข่ายกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมช่วยชาวนา ซื้อข้าว” กสอ. ได้ประสานงานสหกรณ์การเกษตรเกษตรวิสัย จำกัด มีสมาชิกเป็นชาวนา 9,000 ครอบครัว มีโรงสีข้าวเองที่มีกระบวนการ และกรรมวิธีในการแปรรูปตามระบบมาตรฐานสากลแบบครบวงจรให้แก่เกษตรกร ที่เป็นสมาชิกในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด โดยซื้อข้าวจากสมาชิกในราคาที่สูงกว่านำมาสีขาย ซึ่งข้าวที่จะนำมาสีนั้น เป็นข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา สีเป็นข้าวสาร 100 % โดยแบ่งบรรจุถุงละ 5 กิโลกรัม จัดจำหน่าย ในราคากิโลกรัมละ 31 บาท จากนั้น กสอ. จะเป็นสื่อกลางในการมาขายให้แก่ประชาชนทั่วไป ผ่าน Market Place และตามด้วยช่องทางออนไลน์ ตลอดจนร่วมมือกับเครือข่ายผู้ประกอบการขนาดใหญ่ จากโครงการต่าง ๆ ของ กสอ. อาทิ เครือข่าย DIP SMEs NETWORK  โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขัน (MDICP) โครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม (คพอ.) เป็นต้นเพื่อนำไปจำหน่ายให้กับพนักงานและชุมชนโดยรอบสถานประกอบการ

อย่างไรก็ดี โครงการดังกล่าวนี้จะใช้ระยะเวลาในการดำเนินงานตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน 2559 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2560 เบื้องต้นได้ตั้งทีมบริหารโครงการ และคณะทำงาน 2 ชุด และเตรียมความพร้อมผู้ที่จะจัดหาข้าวจากชาวนาดำเนินการผลิตข้าวสารไว้แล้ว โดยจะเริ่มจัดส่งข้าวสารถึงผู้บริโภคงวดแรกในเดือนธันวาคม 2559และจัดส่งงวดต่อๆไป ในทุกๆเดือน จนกว่าจะครบตามจำนวนที่ระบุไว้ของโครงการ ทั้งนี้ได้วางเป้าหมายปริมาณการสั่งซื้อเบื้องต้นรวมทั้งสิ้นประมาณ 500 ตันข้าวสาร ซึ่งคาดว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในโครงการช่วยเหลือที่จะเป็น