พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมและติดตามการทำงานของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนว่า การดำเนินนโยบายเป็นไปได้ความเรียบร้อยและมีความก้าวหน้าของงานไปมาก และในปี 2560การทำงานก็ควรให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะเรื่องกิจกรรมท่องเที่ยวและกีฬา ก็เป็นหนึ่งในแผน ยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงการดำเนินงานตามแผนแม่บททุกๆ 5 ปี โดยทุกกระทรวงจะต้องปฏิบัติตามนี้ เพื่อให้ทุกอย่างขับเคลื่อนไปได้
รัฐบาลมุ่งหวังคือการทำให้การท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 4 มีรายได้สูงขึ้นมากกว่า 6 % ซึ่งการท่องเที่ยวใน 3 ไตรมาสที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล และไตรมาสที่ 4 คาดจะเป็นไปตามความคาดหมายอยู่แล้ว แต่เราต้องการให้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งต้องดูปัจจัยภายในประเทศด้วย ที่ผ่านมาใครที่ทำผิดและถูกกฎหมายเราต้องมาแก้ปัญหาพร้อมกัน ต้องช่วยกันสร้างความเข้มแข็งและบังคับใช้กฎหมายไปพร้อมกัน จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
“ขณะนี้นักท่องเที่ยวในภาพรวมยังไม่ได้ลด แต่หากนับเป็นรายประเทศอาจจะลดลงบ้าง แต่ก็ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ไม่ใช่เพราะนักท่องเที่ยวไม่อยากมา แต่เนื่องจากคนไทยอยู่ในสภาวการณ์ที่เศร้าโศก ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่ง ส่วนปัจจัยต่อมาคือการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจำเป็นต้องทำ ปัจจัยที่สามคือ หากมองในแง่ของตัวเลขรวม ก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเดิม เพียงแต่ตัวเลขเฉลี่ยไปยังประเทศอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งในบางประเทศอาจลดลงบ้างถือเป็นเรื่องธรรมดา สิ่งสำคัญต้องขับเคลื่อนทุกอย่างในไตรมาส 4 ให้สูงขึ้น”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ เมื่อกฎหมายมีอยู่ ก็ต้องแก้ปัญหาต่อไป แต่การแก้ไขปัญหา อาจมีผลกระทบให้นักท่องเที่ยวจีนลดลง ก็ต้องสร้างความเข้าใจขอให้ทำให้ถูกกฎหมาย ไม่ใช่มีปัญหาศูนย์เหรียญก็มาบอกว่ารัฐบาลไม่ปราบ พอรัฐบาลมาแก้ปัญหา ก็มาบอกว่ารัฐบาลทำให้ประเทศเสียหาย ทุกคนต้องช่วยสร้างความคลี่คลาย สร้างความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยว และเข้าใจสิ่งที่รัฐบาลต้องทำแบบ ซึ่งประเทศต้นทางก็ให้ความร่วมมือ ไม่ใช่ขุดเรื่องนั้นเรื่องนี้ออกมาทั้งวัน เป็นวิวาทะทางวาจา แล้วใครจะมาเที่ยว บางเรื่องมีปัญหาก็มีหน่วยงานแก้อยู่แล้วก็ทำไป บางอย่างเป็นเรื่องภายในของหน่วยงาน ไม่ใช่เขาจะปิดบัง บางอย่างที่พูดแล้วเสียหาย ก็ยังไม่พูด