กะตะกรุ๊ปเล็งทุ่มงบพัฒนาพื้นที่เขาหลักรับธุรกิจเวดดิ้งจีน

24 พ.ย. 2559 | 10:28 น.
กะตะกรุ๊ป เล็งขยายฐานลูกค้า สู่ตลาดเวดดิ้ง เร่งศึกษาข้อมูล เตรียมประเดิมจุดแรกที่ บียอน รีสอร์ท เขาหลัก พังงา ส่วนแผนลงทุน ยังเดินหน้าทุ่มกว่า 1,000 ล้าน ผุดโรงแรมใหม่หาดป่าตอง ภูเก็ต สิงหาคมปีหน้า พร้อมเตรียมรีโนเวทใหญ่โรงแรมในเครือทั้ง 7 แห่ง

นายประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย ประธานกรรมการ โรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ป เปิดเผย ""ฐานเศรษฐกิจ" ว่า แผนการลงทุนของ กะตะกรุ๊ป ยังคงเดินหน้า แม้สภาพเศรษฐกิจทีผ่านมาจะไม่ดีนัก แต่ธุรกิจของกะตะกรุ๊ปยังไปได้ดี รายได้ยังเป็นไปตามเป้า โครงการโรงแรมที่หาดป่าตองยังคงเดินหน้า ด้วยงบลงทุนรวมค่าที่ดินกว่า 1,000 ล้านบาท ชื่อโครงการ "เดอะแลนด์ มาร์ค ป่าตอง" เป็นโรงแรมขนาด 160 ห้อง และพื้นที่พลาซ่า มีศูนย์อาหาร และที่จอดรถใต้ดิน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากหาดป่าตองมีที่จอดรถน้อย โครงการทั้งหมดจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการประมาณสิงหาคม 2560

"กะตะกรุ๊ปยังมีแผนลงทุนต่อเนื่อง จากที่ดินที่ยังมีอยู่อีก 2-3 แปลง เพราะมองว่าธุรกิจโรงแรมที่ภูเก็ตยังมีแนวโน้มตลาดที่ดี แต่อาจจะพักโครงการใหม่ 1-2 ปี เพื่อรีโนเวทโรงแรมในเครือที่มีอยู่ก่อน แล้วค่อยลงทุนต่อ" นายประมุขพิสิฐกล่าวและว่า ช่วงที่ผ่านมา มีการีโนเวทโรงแรม กะตะ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ในส่วนของห้องพัก ล็อบบี้และห้องอาหารไปแล้ว ในปีหน้าจะรีโนเวทต่อคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดประมาณพฤศจิกายน 2560 โดยระหว่างการรีโนเวท ทางโรงแรมได้ชดเชยความไม่สะดวก หรือเสียงรบกวนให้กับลูกค้า ด้วยการให้รับประทานอาหารที่โรงแรมฟรีมื้อเช้า ซึ่งลูกค้าพอใจมาก

ส่วนโครงการที่เขาหลัก ซึ่งลงทุนในโรงแรม บียอน รีสอร์ท เขาหลัก จังหวัดพังงา ไปแล้ว จำนวน 77 ห้อง เป็นวิลล่าทั้งหมด ขณะนี้ ได้ซื้อที่เพิ่มอีก 15 ไร่ ทำให้มีเนื้อที่รวมเกือบ 100 ไร่ จากเดิมที่มีแขกเข้าเป็นที่เป็นผู้ใหญ่ทั้งหมด และส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวในแถบยุโรป ในพื้นที่ส่วนที่เพิ่มขึ้นมา มีแผนจะทำเป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน ซึ่งขณะนี้ตลาดใหญ่คือ จีน ที่ให้ความสนใจเดินทางมาจัดพิธีแต่งงานที่เมืองไทยมาก

"เรากำลังศึกษาตลาดอยู่ มีการเดินทางไปเจรจากับนักธุรกิจจีน ซึ่งดำเนินการมาซักระยะหนึ่งแล้ว และผมจะไปจีนประมาณปลายเดือนพฤศจิกายนนี้อีกครั้ง" นายประมุขพิสิฐกล่าว

ลักษณะการทำธุรกิจ จะจัดทำสถานที่ให้เหมาะกับการจัดพิธีแต่งงาน มีสถานที่ให้ถ่ายรูป โดยจะจัดเป็นแพ็คเกจ นำเสนอบริการตามสิ่งที่ลูกค้าต้องการ อาจจะจัดเป็นแบบ 30 คู่ 50 คู่ หรือ 100 คู่ ราคาแพ็คเกจขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ซึ่งขณะนี้ กำลังศึกษาตลาดเพิ่มเติม เพื่อจัดทำเป็นแพ็คเกจหรือรูปแบบที่รองรับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่

ส่วนเรื่องการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเดิมมีแผนจะนำเข้าประมาณปี 2560 ขณะนี้ยังดำเนินการอยู่ แต่ยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน เนื่องจากธุรกิจโรงแรมในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ค่อยหวือหวามากนัก