ตลาดหลักทรัพย์เปิดกลยุทธ์ปี’ 60  

23 พ.ย. 2559 | 07:27 น.
นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศกลยุทธ์หลักในปี 2560 ในการ พัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน สร้างรากฐานการเติบโตไปพร้อมกันทั้งตลาดทุน เศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติ ตามทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจไทยของรัฐบาล Thailand 4.0  ด้านการระดมทุน มุ่งขยายโอกาสให้อุตสาหกรรมที่เป็นจุดแข็งของประเทศ พร้อมสร้าง ระบบให้สตาร์ทอัพ เข้าถึงแหล่งเงินทุน  พร้อมรณรงค์ “การลงทุนสม่ำเสมอ” รองรับสังคมผู้สูงอายุ ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านสร้างธุรกิจในระดับภูมิภาค ต่อยอดความสำเร็จในปี 2559 ผลักดันให้ตลาดทุนไทยโดดเด่นที่สุดในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง

“ ตลาดทุนไทยถือเป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงกำหนดวิสัยทัศน์ในการมุ่งพัฒนาตลาดทุนให้เป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อม ๆ กัน   ทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมเดินหน้าสนับสนุนทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐ Thailand 4.0 เพราะเชื่อว่าการเติบโตของภาคธุรกิจที่ดีจะนำไปสู่ความแข็งแกร่งของประเทศชาติ และส่งผลต่อการพัฒนาภาคสังคมไทยที่ดีขึ้น”นายชัยวัฒน์กล่าว

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2560 ตลาดหลักทรัพย์ฯ วางกลยุทธ์หลักเพื่อให้ตลาดทุนไทยเป็นประโยชน์กับทุกภาคส่วน 3 ด้าน ได้แก่ 1.ขยายโอกาสการระดมทุนในหลายรูปแบบ2.สร้างวัฒนธรรมการลงทุน 3.มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของตลาดทุนไทยสู่ความเป็นเลิศและการปฏิบัติงานได้ตามมาตรฐานสากล ให้พร้อมรองรับทิศทางธุรกิจในอนาคตที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศด้วยมาตรฐานสากลผ่านระบบดิจิตอล

ในปี 2559 ตลาดหลักทรัพย์ยังคงแสดงศักยภาพที่โดดเด่นในระดับภูมิภาค (ณ 22 พ.ย. 2559) ดัชนีหุ้นไทยสร้างผลตอบแทนสูงสุดใน เอเซียน  เพิ่มขึ้น 15% อยู่ที่ 1,485.68 จุด ขณะที่สภาพคล่องครองอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ด้วยมูลค่าซื้อขายต่อวัน 53,443.33 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดจากการระดมทุนผ่านบริษัทจดทะเบียนใหม่ (IPO) สูงสุดในอาเซียน อยู่ที่ 136,685 ล้านบาท และการระดมทุนของบริษัทจดทะเบียน เพิ่มขึ้น 273,473 ล้านบาท (ณ 30 ต.ค. 2559) มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของทั้งสองตลาด  อยู่ที่ 14.88 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากสิ้นปี 2558

ด้านคุณภาพได้ผลักดันบริษัทจดทะเบียนให้ได้รับคัดเลือกเป็นองค์ประกอบในดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI) 14 แห่ง มากที่สุดในอาเซียน และสามารถยกระดับบรรษัทภิบาลของไทยส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนไทยได้คะแนน ASEAN CG Scorecard เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง