ครม.เห็นชอบมาตรการเพิ่มรายได้ผู้มีรายได้น้อย

22 พ.ย. 2559 | 08:03 น.
ครม.เห็นชอบมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 3,000 บาทต่อคน ครอบคลุมผู้มีสิทธิ์ 5.4 ล้านคน

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวภายหลังการเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรีว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอเรื่อง มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ ผู้มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยที่ประชุมมีมาตรการ เพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตรกร

คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ เป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2559 และเป็นผู้ว่างงานหรือมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ในปี 2558 โดยมีการตรวจสอบสถานะบุคคลและความถูกต้องของข้อมูลในเบื้องต้นจากกรมสรรพากร และกรมการปกครองแล้ว ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนที่ตรวจสอบจากเว็บไซต์ของกรมสรรพากรแล้ว ไม่ปรากฎชื่อให้นำเอกสารหลักฐานที่ธนาคารผู้รับลงทะเบียนให้ไว้ ไปติดต่อที่สาขาธนาคารที่ตนไปลงทะเบียนภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2559 จำนวนกลุ่มเป้าหมาย ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่ใช่เกษตรกรจำนวน 5.4 ล้านคน

เกณฑ์การช่วยเหลือ ใช้เส้นทางความยากจน ที่คำนวณโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นเกณฑ์ โดยกำหนดอัตราเงินช่วยเหลือ ซึ่งมีจำนวนผู้มีสิทธิ์และวงเงินงบประมาณที่ใช้ ดังนี้

ผู้ที่ไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท / ปี อัตราเงินช่วยเหลือ (ให้เพียงครั้งเดียว) 3,000 บาท / คน ประมาณการจำนวนผู้มีสิทธิ์ 3.1 ล้านคน ประมาณการวงเงินที่ใช้ 9,300 ล้านบาท

ผู้มีรายได้ตั้งแต่ 30,001 บาท / ปี ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 100,000 บาท /ปี อัตราเงินช่วยเหลือ (ให้เพียงครั้งเดียว) 1,500 บาท / คน ประมาณการจำนวนผู้มีสิทธิ์ 2.3 ล้านคน ประมาณการวงเงินที่ใช้ 3,450 ล้านบาท ประมาณการจำนวนผู้มีสิทธิ์ 5.4 ล้านคน และวงเงินที่ใช้ 12,750 ล้านบาท

ส่วนวิธีการโอนเงิน ให้ ธ.ก.ส. ธ.ออมสิน และ ธ. กรุงไทย ดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีผู้มีรายได้น้อย ที่ไม่ใช่เกษตรกรที่ลงทะเบียนตามโครงการฯ ไว้กับธนาคาร โดยจำแนกเป็น 2 กรณี คือ

1. กรณีผู้มีสิทธิ์เป็นลูกค้าของธนาคาร : ให้ธนาคารโอนเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิ์โดยตรง โดยให้ผู้มีสิทธิ์สามารถตรวจสอบเงินในบัญชีของตนภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ธนาคารแจ้งการโอนเงินหากไม่มีเงินโอนเข้าบัญชีให้ไปยืนยันสิทธิ์กับธนาคารที่ได้ลงทะเบียนไว้ และหากผู้สิทธิ์มีบัญชีเงินฝากมากกว่า 1 บัญชี ธนาคารจะทำการโอนเงินเข้าในบัญชีที่มีการเคลื่อนไหวล่าสุด

2. กรณีผู้มีสิทธิ์ไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคาร : ให้ผู้มีสิทธิ์ไปแสดงตัวและเปิดบัญชีเงินฝากที่สาขาธนาคารที่ไปลงทะเบียนตามโครงการฯ และสามารถตรวจสอบเงินในบัญชีหลังจากเปิดบัญชีภายใน 7 วัน หากไม่มีเงินโอนเข้าบัญชีให้ไปยืนยันสิทธิกับธนาคารที่ได้ลงทะเบียนไว้

ทั้งนี้ ให้ธนาคารใช้หลักเกณฑ์การโอนเงินข้างต้นเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการโอนเงินให้เกษตรกรผู้มีสิทธิ์ ตามมาตรการเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อยด้วย กรอบระยะเวลาดำเนินการ วันที่ 1 ธันวาคม 2559 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2559