ราคายางขยับชาวสวนเฮมีลุ้นแตะ 70 บาท

20 พ.ย. 2559 | 02:57 น.
นายธีรพงศ์  ตันติเพชราภรณ์ ผู้แทนสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (บอร์ด กยท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ผลผลิตยางพาราในพื้นที่ภาคใต้ในฝั่งอันดามันว่า ขณะนี้ยังคงมีฝนตกชุก แทบจะไม่ได้กรีดยางเลย ส่วนฝั่งอ่าวไทยยังมีผลผลิตออกมาบ้างแต่ไม่มากนัก ขณะเดียวกันในภาคใต้มีปาล์มปลูกทดแทนยางมากขึ้น ประกอบกับพ่อค้าเร่งซื้อส่งมอบมากขึ้น เพราะกลัวยางจะขาดตลาด ส่วนภาคเหนือ-อีสานในขณะนี้หลายพื้นที่เริ่มหนาว ปริมาณน้ำยางจะออกน้อย ประกอบกับความต้องการซื้อของผู้ประกอบการภายในประเทศมีมากขึ้น มองว่าราคายางจะค่อยๆ ปรับขึ้นไปเรื่อยๆ

นายชัยพจน์ เรืองอรุณวัฒนา นายกสมาคมน้ำยางข้นไทย กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำยางสด ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2559 อยู่ที่ราคา 55-58 บาทต่อกิโลกรัมถือเป็นราคาสูงสุดรอบ 3 เดือน จากยางแท่งเริ่มขาดตลาดเพราะบริษัทผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนเร่งผลิตยางล้อรถยนต์ เพราะประมาณต้นปีหน้าทางสหรัฐอเมริกา คู่ค้ารายใหญ่ของจีนจะมีการปรับเพิ่มภาษีนำเข้า ดังนั้นเพื่อเลี่ยงผลกระทบภาษี จึงทำให้จีนเร่งผลิตล้อรถไปให้มากที่สุด จึงทำให้อุปทานในขณะนี้เริ่มตึงตัว ขณะที่ภาคใต้เองก็มีฝนตกโดยเฉลี่ย 60-70% ชาวสวนกรีดยางไม่ได้

ด้านนายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายยางและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย (สยยท.) กล่าวว่า สต๊อกยางจีนลดน้อยลง เวลานี้พ่อค้าจีนวิ่งมาซื้อยางจาก สยยท.โดยตรง โดยเป็นสมาชิกรัฐวิสาหกิจจีนจากปักกิ่ง 7 โรงงาน แต่ละโรงความต้องการสูงมาก  ในตอนแรกทางฝ่ายจีนจะกำหนดยางรับซื้อล่วงหน้าแบบพ่อค้า 2 เดือน ซึ่งทาง สยยท.เห็นว่ามีความเสี่ยงสูง เพราะถ้าราคายางในอนาคตสูง ก็ส่งยางให้ไม่ได้ จึงได้กำหนดการซื้อขายเป็นแบบล็อตๆ โดยราคาซื้อขายเป็นราคาตลาดโลก ณ วันที่ซื้อขายกัน อีกทั้งจีนยังให้ค่าพรีเมียมพิเศษ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มกัน โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการสร้างแบรนด์กลางร่วมกันเพื่อยืนยันว่าสินค้ามาจากสถาบันเกษตรกรจริง หากสถานการณ์ยังคงมีปัจจัยหนุนต่อเนื่องราคายางในปลายปีนี้ไม่น่าต่ำกว่า 70 บาทต่อกิโลกรัม