Play
สินค้างานวิจัยสกว.บุกตลาดจีน พร้อมขายลูกอมใน7-11ต้นปีหน้า
Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่
สินค้าจากงานวิจัย สกว. บุกตลาดจีนในงานแสดงสินค้าอาหารที่เมืองเฉิงตู กระแสตอบรับดีเกินคาด หลายผลิตภัณฑ์ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพราะรสชาติอร่อยถูกปาก ตัวแทนจำหน่ายรุมจีบ เผย‘ลูกอมน้ำผึ้งผสมมะนาว’ งานวิจัยล่าสุดเตรียมเปิดตัววางขายใน 7-11 ต้นปีหน้า
รศ. ดร.พงศ์พันธ์ แก้วตาทิพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เปิดเผยว่า ชุดโครงการ"การพัฒนาผลิตภัณฑ์ Innovative House" ภายใต้ฝ่ายอุตสาหกรรม สกว. ได้นำผู้ประกอบการของไทยจำนวน 6 ราย ประกอบด้วย บริษัท บานาน่าโซไซตี้ จำกัดบริษัท พีพีออย แอนด์ ฟู้ดส์ จำกัดร้านใบสลาดข้าวต้มมัดอินเตอร์บริษัท แล็บเฮลท์ จำกัดวิสาหกิจชุมชนแก้วเจ้าจอมและบริษัท โกลเด้นเรย์ จำกัดเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารThe 16th Western China International Fair ระหว่างวันที่ 10-14 พฤศจิกายน 2559 ณ เมืองเฉิงตูมณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน
งานแสดงสินค้าครั้งนี้เป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการวิจัยสู่การจำหน่ายจริงในเชิงพาณิชย์โดยผลิตภัณฑ์ที่จากผู้ประกอบการเข้าร่วมแสดงสินค้าในงานได้แก่ ผลิตภัณฑ์กล้วยตากทองม้วน ข้าวต้มมัด ชาลูกอมน้ำผึ้ง สแนคจากเส้นก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น นอกจากนี้ภายในงานยังมีการเจรจาธุรกิจเช่นร้านค้าร้านอาหารตัวแทนจำหน่ายร้านค้าออนไลน์การนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผ่านกระบวนการวิจัยเพื่อทดสอบตลาดตลาดสินค้านำเข้าของเมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงเนื่องจากเมืองเฉิงตูเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 ของประเทศจีนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ฝั่งตะวันตกผู้บริโภคประเทศจีนมีความคุ้นเคยและให้การตอบรับสินค้าไทยเป็นอย่างดีตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ขายผู้จัดจำหน่ายและผู้กระจายสินค้าเพื่อเสริมสร้างศักยภาพสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออกสินค้ามายังนครเฉิงตู
รศ. ดร.พงศ์พันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานนี้ผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย สกว. ได้รับความสนใจจากชาวจีนเป็นอย่างมาก กระแสตอบรับดีทั้งผู้บริโภคทั่วไป และตัวแทนห้างร้าน-ผู้จัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กล้วยตากบานาน่าโซไซตี้ รสชาติอร่อย หวานเป็นธรรมชาติ ถูกปากชาวจีน รวมทั้งสแนคจากเส้นก๋วยเตี๋ยว เนื่องจากคนจีนชอบรสชาติอาหารไทย เมื่อถอดออกมาเป็นสแนคจึงเป็นที่ชื่นชอบโดยเฉพาะวัยรุ่น ขณะที่ข้าวต้มมัดได้รับความสนใจจากผู้แทนจำหน่าย ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องราคา ทั้งนี้ประเทศจีนเน้นการขายผ่านตลาดออนไลน์ ซึ่ง สกว. ได้รับความสนใจจากหลายบริษัทที่ทำตลาดส่วนนี้ แต่ต้องหาตัวแทนในการกระจายสินค้าให้ได้ก่อน
“ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาเปิดตัวในงานนี้ ได้แก่ สแนคจากแป้งขิง โดยผู้ผลิตน้ำขิงฮอตต้าก็นำมาทดสอบตลาดให้ผู้บริโภคจีนได้ชิมเป็นที่แรก ทองม้วนสอดไส้ทุเรียนที่มีความโดดเด่นของรสชาติทุเรียน กลิ่นหอมละมุนและลูกอมน้ำผึ้งผสมมะนาวจากงานวิจัยโครงการ “ผลการดูดความชื้นและการเปลี่ยนคุณภาพระหว่างการเก็บรักษาของลูกอมที่ผลิตจากไอโซมอลและน้ำผึ้ง” มี รศ. วรนุช ศรีเจษฎารักข์ภาควิชาเทคโนโลยีอาหารคณะเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นหัวหน้าโครงการ โดยนายนพพล เนืองนอ กรรมการผู้จัดการบริษัท แล็บเฮลท์ มีความมั่นใจในการทำตลาด เนื่องจากมีข้อมูลที่สนับสนุนว่าประเทศจีนนิยมการบริโภคน้ำผึ้งเป็นลำดับต้นๆ ของโลกทำให้มีความเป็นไปได้ว่าผลิตภัณฑ์ลูกอมน้ำผึ้งจะได้รับความนิยมเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งสด จึงตัดสินใจเข้าร่วมในโครงการดังกล่าวเพื่อหาช่องทางการค้าในต่างประเทศเพิ่มเติมจากการจำหน่ายในประเทศ ส่วนในไทยขณะนี้อยู่ระหว่างการทำบรรจุภัณฑ์เป็นกล่องกระดาษ และคาดว่าจะวางจำหน่ายใน 7-11 ได้ในช่วงต้นปี 2560” ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรม สกว. กล่าวเพิ่มเติม
รศ. ดร.พงศ์พันธ์ แก้วตาทิพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เปิดเผยว่า ชุดโครงการ"การพัฒนาผลิตภัณฑ์ Innovative House" ภายใต้ฝ่ายอุตสาหกรรม สกว. ได้นำผู้ประกอบการของไทยจำนวน 6 ราย ประกอบด้วย บริษัท บานาน่าโซไซตี้ จำกัดบริษัท พีพีออย แอนด์ ฟู้ดส์ จำกัดร้านใบสลาดข้าวต้มมัดอินเตอร์บริษัท แล็บเฮลท์ จำกัดวิสาหกิจชุมชนแก้วเจ้าจอมและบริษัท โกลเด้นเรย์ จำกัดเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารThe 16th Western China International Fair ระหว่างวันที่ 10-14 พฤศจิกายน 2559 ณ เมืองเฉิงตูมณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน
งานแสดงสินค้าครั้งนี้เป็นการนำผลิตภัณฑ์ที่ผ่านกระบวนการวิจัยสู่การจำหน่ายจริงในเชิงพาณิชย์โดยผลิตภัณฑ์ที่จากผู้ประกอบการเข้าร่วมแสดงสินค้าในงานได้แก่ ผลิตภัณฑ์กล้วยตากทองม้วน ข้าวต้มมัด ชาลูกอมน้ำผึ้ง สแนคจากเส้นก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น นอกจากนี้ภายในงานยังมีการเจรจาธุรกิจเช่นร้านค้าร้านอาหารตัวแทนจำหน่ายร้านค้าออนไลน์การนำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผ่านกระบวนการวิจัยเพื่อทดสอบตลาดตลาดสินค้านำเข้าของเมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงเนื่องจากเมืองเฉิงตูเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 ของประเทศจีนมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ฝั่งตะวันตกผู้บริโภคประเทศจีนมีความคุ้นเคยและให้การตอบรับสินค้าไทยเป็นอย่างดีตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ขายผู้จัดจำหน่ายและผู้กระจายสินค้าเพื่อเสริมสร้างศักยภาพสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออกสินค้ามายังนครเฉิงตู
รศ. ดร.พงศ์พันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานนี้ผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย สกว. ได้รับความสนใจจากชาวจีนเป็นอย่างมาก กระแสตอบรับดีทั้งผู้บริโภคทั่วไป และตัวแทนห้างร้าน-ผู้จัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กล้วยตากบานาน่าโซไซตี้ รสชาติอร่อย หวานเป็นธรรมชาติ ถูกปากชาวจีน รวมทั้งสแนคจากเส้นก๋วยเตี๋ยว เนื่องจากคนจีนชอบรสชาติอาหารไทย เมื่อถอดออกมาเป็นสแนคจึงเป็นที่ชื่นชอบโดยเฉพาะวัยรุ่น ขณะที่ข้าวต้มมัดได้รับความสนใจจากผู้แทนจำหน่าย ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาเรื่องราคา ทั้งนี้ประเทศจีนเน้นการขายผ่านตลาดออนไลน์ ซึ่ง สกว. ได้รับความสนใจจากหลายบริษัทที่ทำตลาดส่วนนี้ แต่ต้องหาตัวแทนในการกระจายสินค้าให้ได้ก่อน
“ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาเปิดตัวในงานนี้ ได้แก่ สแนคจากแป้งขิง โดยผู้ผลิตน้ำขิงฮอตต้าก็นำมาทดสอบตลาดให้ผู้บริโภคจีนได้ชิมเป็นที่แรก ทองม้วนสอดไส้ทุเรียนที่มีความโดดเด่นของรสชาติทุเรียน กลิ่นหอมละมุนและลูกอมน้ำผึ้งผสมมะนาวจากงานวิจัยโครงการ “ผลการดูดความชื้นและการเปลี่ยนคุณภาพระหว่างการเก็บรักษาของลูกอมที่ผลิตจากไอโซมอลและน้ำผึ้ง” มี รศ. วรนุช ศรีเจษฎารักข์ภาควิชาเทคโนโลยีอาหารคณะเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นหัวหน้าโครงการ โดยนายนพพล เนืองนอ กรรมการผู้จัดการบริษัท แล็บเฮลท์ มีความมั่นใจในการทำตลาด เนื่องจากมีข้อมูลที่สนับสนุนว่าประเทศจีนนิยมการบริโภคน้ำผึ้งเป็นลำดับต้นๆ ของโลกทำให้มีความเป็นไปได้ว่าผลิตภัณฑ์ลูกอมน้ำผึ้งจะได้รับความนิยมเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์น้ำผึ้งสด จึงตัดสินใจเข้าร่วมในโครงการดังกล่าวเพื่อหาช่องทางการค้าในต่างประเทศเพิ่มเติมจากการจำหน่ายในประเทศ ส่วนในไทยขณะนี้อยู่ระหว่างการทำบรรจุภัณฑ์เป็นกล่องกระดาษ และคาดว่าจะวางจำหน่ายใน 7-11 ได้ในช่วงต้นปี 2560” ผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรม สกว. กล่าวเพิ่มเติม