FSMART ทุบสถิตินิวไฮ งวด 9 เดือนรายได้ 1,690 ล.-กำไรเพิ่ม 47.5%

11 พ.ย. 2559 | 07:00 น.
บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส โชว์งบนิวไฮต่อเนื่อง งวด 9 เดือนรายได้ 1,690 ล้านบาท เพิ่ม 41.5% กำไร 287 ล้านบาท เพิ่ม 47.5% เฉพาะไตรมาส 3 รายได้กว่า 600 ล้านบาท กำไร 104 ล้านบาท เพิ่ม 38.5% และ 47.3% หลังขยายตู้บุญเติมเร็วกว่าแผนไปแล้วกว่า 85,656 ตู้ แถมยอดบริการโอนเงิน และยอดใช้บริการชั่งน้ำหนักเพิ่มขึ้นผลักดันรายได้พุ่ง คาดปีนี้มีโอกาสขยายตู้ได้เกินเป้าที่วางไว้ เผยไตรมาส 4 รับโฆษณาเพิ่มอีก 2 ราย และเตรียมปิดดีลตัวแทนโอนเงินแบงก์พาณิชยน์อีกราย

นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART”  ผู้นำช่องทางการชำระเงินผ่าน“ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม” เปิดเผยผลประกอบการงวด 9 เดือนบริษัทมีรายได้รวม 1,690 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.5% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 1,194 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 287 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.5% จากงวดเดียวกันปี 2558 ส่วนไตรมาส 3/2559รายได้รวมอยู่ที่ 600 ล้านบาท กำไร 104 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 433 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.5% และกำไร 71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 47.3% และเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2559 มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น 6.2% และ 9.4% ตามลำดับ ซึ่งรายได้หลักยังคงมาจากการให้บริการเติมเงินโทรศัพท์ระบบเติมเงินล่วงหน้าและรับชำระเงินออนไลน์อื่นๆ ที่มีสัดส่วนกว่า 95%

ทั้งนี้ ปัจุบันบริษัทสามารถติดตั้งตู้บุญเติมทั่วประเทศได้มากกว่า 85,656 ตู้ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2559) จากเดิมในไตรมาส 3/2558 บริษัทมีจำนวนตู้บุญเติมอยู่ที่ 61,076 ตู้ และไตรมาส 2/2559 มีจำนวนตู้ 79,608 ตู้ ส่งผลให้มูลค่าการเติมเงินรวมผ่าน “ตู้บุญเติม” อยู่ที่ 5,766 ล้านบาท หรือเติบโต 46.2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่หมายเลขผู้ใช้งานเติบโตเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 20.7 ล้านเลขหมาย ส่งผลให้มียอดการเติมเงินเฉลี่ยวันละกว่า 64 ล้านบาท และยอดทำรายการเฉลี่ย 1.7 ล้านรายการต่อวัน

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีรายได้ในส่วนของบริการอื่นๆเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ อาทิ บริการโอนเงินผ่าน “ตู้บุญเติม” ในการเป็นตัวแทนของธนาคารกรุงไทย ที่ได้รับการตอบรับที่ดีโดยเฉพาะลูกค้าในต่างจังหวัด ทำให้มีรายการเพิ่มขึ้นมียอดการโอนกว่า  2,300 รายการต่อวัน จากเดิมมีจำนวนกว่า 1,500 รายการต่อวันในไตรมาสที่ผ่านมา คาดว่าจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจากธนาคารพาณิชย์อีกรายหนึ่งในไตรมาส 4 ซึ่งจะผลักดันให้รายได้ในส่วนนี้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เช่นเดียวกับรายได้จากเครื่องชั่งน้ำหนักที่มีการเติบโต หลังจากที่บริษัทติดตั้งไปกับตู้บุญเติมแล้วกว่า 20,000 เครื่องทั่วประเทศ ซึ่งถือว่าเกินเป้าในปีนี้

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังดำเนินการให้ช่องทางอื่นๆมีรายได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการโฆษณาที่จะมีลูกค้าใหม่เพิ่มเข้ามาช่วงปลายปีอีก 2 ราย ส่วนรายได้จากการรับชำระค่าบริการ และรายได้จากการขายสินค้ามีอัตราการเพิ่มขึ้นตามลำดับ

“ผลประกอบในไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนของบริษัทมีการเติบโตในทุกด้าน โดยเฉพาะบริการโอนเงินที่ได้รับความนิยมอย่างสูง  และจากการที่สามารถขยายตู้เติมเงินบุญเติมได้เร็วกว่าแผน  ทำให้เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่จะมีจำนวนตู้ให้ได้ 90,000 ตู้ทั่วประเทศในสิ้นปี และจะส่งผลให้ยอดเติมเงินอยู่ที่ 21,000 ล้านบาทตามเป้าหมายเช่นเดียวกัน แต่ก็เป็นไปได้ว่าเราอาจจะทำได้เกินกว่าเป้าหมาย แต่ยังคงต้องรอช่วงปลายปีอีกครั้ง ส่วนระบบแฟรนไชส์สำคัญที่สุดคือต้องเติบโตไปพร้อมกับบริษัทด้วย  ซึ่งจะทำให้เกิดความสมดุลทางธุรกิจ และช่วยพัฒนาให้การทำธุรกิจตู้เติมเงินมือถืออยู่แบบยั่งยืนในระยะยาว” นายสมชัยกล่าว

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์และบริการ โดยการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการเพิ่มบริการใหม่ๆ ให้มีความหลากหลาย เพื่อสร้างทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการในปัจจุบัน และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต ตามโมเดลธุรกิจ Digital Retail Channel เพิ่มรายได้ 5 ช่องทางที่บริษัทได้วางไว้