“โดนัลด์ ทรัมป์”พลิกโผขึ้นแท่นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ

09 พ.ย. 2559 | 09:33 น.
“โดนัลด์ ทรัมป์” พลิกโผขึ้นแท่นประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ หลังคว้าชัยชนะเหนือ “ฮิลลารี คลินตัน” อย่างเหนือความคาดหมาย ส่งผลให้ตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลกผันผวนอย่างหนัก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากการนับคะแนนจนถึงขณะนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน สามารถคว้าคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral vote) ได้ 276 เสียง ขณะที่นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ได้คะแนนเสียง 218 เสียง ทำให้ทรัมป์ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐฯ อย่างเหนือความคาดหมาย

โดยทรัมป์สามารถคว้าชัยชนะได้สำเร็จในรัฐสวิงสเตทที่สำคัญ ทั้งในรัฐฟลอริดา โอไฮโอ และนอร์ธแคโรไลนา อีกทั้งยังสามารถแย่งชิงคะแนนจากรัฐที่ถูกคาดหมายว่าจะตกเป็นของนางคลินตันมาได้ อาทิเช่น รัฐเพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน

ทั้งนี้ ทรัมป์ออกมากล่าวต่อหน้าผู้สนับสนุนภายหลังสื่อหลายสำนักคาดการณ์ชัยชนะของตนว่า นางคลินตันได้โทรมาแสดงความยินดีกับตนแล้ว พร้อมเรียกร้องให้ชาวอเมริกันทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน อีกทั้งได้ให้คำมั่นกับต่างชาติว่า “ในขณะที่เราจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของอเมริกาเป็นลำดับแรก แต่เราจะปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เราจะหาจุดยืนร่วมกัน ไม่ใช่สร้างศัตรู”

ชัยชนะที่เหนือความคาดหมายของทรัมป์ส่งผลต่อตลาดเงินตลาดทุนทั่วโลกอย่างหนัก โดยเฉพาะตลาดซื้อขายหุ้นล่วงหน้าของสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลดลงกว่า 700 จุด ขณะที่เอสแอนด์พี 500 ปรับลดลง 5% และคาดว่าจะปรับลดลงอย่างต่อเนื่องหลังจากเปิดตลาด เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในเอเชียที่ปรับลดลงอย่างถ้วนหน้า ดัชนีนิคเคอิในโตเกียวปรับตัวลดลงกว่า 5% รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่การทำประชามติเบร็กซิท ดัชนีฮั่งเส็งที่ฮ่องกงปรับลดลงประมาณ 2% ส่วนเงินเยนที่นักลงทุนมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยแข็งค่าขึ้น 3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นอย่างมาก

ชัยชนะของทรัมป์ส่งผลอย่างรุนแรงต่อค่าเงินเปโซของเม็กซิโก ซึ่งอ่อนค่าลงไปแล้วกว่า 13% นับเป็นการอ่อนค่ารุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2537