ธนาคารยูโอบี โดยนายอัลวิน ลิว นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสกลุ่มธนาคารยูโอบี แสดงความคิดเห็นจากต่อผลการเลือกตั้งสหรัฐอเมริกา หากโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะส่งผลตลาดเงินผันผวนทันที โดยแรงตลาดหุ้นจะเผชิญแรงกดดันชัดเจน และอาจทำให้นักลงทุนหันความสนใจจากสินทรัพย์เสี่ยงไปยังสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยกว่า เช่น ตราสารหนี้รัฐบาลสหรัฐ ทองคำ เงินสกุลเยนและสวิสฟรังก์
นอกจากนั้น ยังมีประเด็นที่สำคัญตามมา ได้แก่ การแต่งตั้งผู้คุมนโยบายด้านการทหาร การเงินการคลัง และสำหรับธนาคารกลางสหรัฐในปี 2561
ส่วนประเด็นสำคัญเร่งด่วนต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ได้แก่ การยืดเวลาการขยายเพดานหนี้ สาธารณะออกไปจากที่จะครบกำหนดในเดือนมีนาคม2560
นายอัลวิน ลิว ยังวิเคราะห์อีกว่า หากพรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงส่วนใหญ่ในทั้งในสภาสูงและสภาผู้แทนราษฎร ก็จะมีความเป็นไปได้มากที่ กฎหมายขยายเพดานหนี้สาธาณะรวมถึงข้อเสนอของทรัมป์ในด้านภาษี และสาธารณูปโภคจะได้รับการอนุมัติ และเกิดผลทางบวกในการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะอันใกล้
ส่วนถ้าพรรคเดโมแครตครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา และรีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร ข้อเสนอของทรัมป์จะไม่ได้รับการอนุมัติ และน่าจะเกิดภาวะชะงักงันทางการเมืองขึ้น และหากพรรคเดโมแครตครองเสียงส่วนใหญ่ทั้งในสภาสูงและสภาผู้แทนราษฎร ภาวะชะงักงันทางการเมืองที่เป็นอยู่จะจะลากยาวต่อไปอีก
"เราประเมินว่าหากทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จะเกิดผลลบต่อการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและภูมิภาคเอเชีย สกุลเงินเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินหยวนของจีน จะได้ถูกกดดันให้แข็งค่าขึ้น และธนาคารกลางของเอเชียคงจะต้ องคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ไปนานกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้"
หากพรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงส่วนใหญ่ในทั้งในสภาสูงและสภาผู้แทนราษฎร หรือหากพรรคเดโมแครตครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภาและรีพับลิกั นครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาล่าง
ฮิลลารี่ คลินตันไม่น่าจะประสบความสำเร็จในการผลักดันการปฏิรูปที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านนโยบายด้านแรงงานต่างด้าว ในด้านนโยบายสาธารณูปโภคก็คงจะได้รับเสียงสนับสนุนจากคองเกรสให้ทำได้ในแบบที่ เคยเป็น เราคาดว่ามีความเป็นไปได้น้อย (เพียงร้อยละ 35 ) ที่สหรัฐอเมริกาจะผ่านกฏหมายงบประมาณ
หากพรรคเดโมแครตครองเสียงส่วนใหญ่ทั้งในสภาสูงและสภาผู้แทนราษฎร ชัยชนะอย่างถล่มทลายของพรรคเดโมแครต จะเป็นแรงผลักดันให้การปฏิรูปมี ความเป็นไปได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านภาษีนิติบุคคล แรงงานต่างด้าว และการลงทุนในสาธารณูปโภค ภายใต้สถานการณ์นี้การผลักดันกฎหมายเพื่อขยายเพดานหนี้ สาธารณะของสหรัฐจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด
ผลกระทบต่อตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
"เราประเมินว่าสหรัฐอเมริ กาภายใต้การนำของนางคลินตั นจะแทบไม่ทำให้เกิดการเปลี่ ยนแปลงต่อเอเชีย แต่ก็ยังเร็วเกินไปที่จะพูดว่ านางจะเปลี่ยนท่าทีมาสนับสนุนข้อตกลงทีพีพี"