เอสซีจี’ลุยควิกเซอร์วิสสู้ธุรกิจติดก๊าซชะงัก

10 พ.ย. 2559 | 07:00 น.
เอสซีจี ออโต้แก๊ส รับธุรกิจติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซหยุดชะงัก พร้อมปรับทัพหันมารุกบริการหลังการขาย ด้วยการทุ่ม 60 ล้านบาทผุด “เอสซีจี คาร์ เซอร์วิส”

นาย อภิสิทธิ์ ธนาดำรงศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี ออโต้แก๊ส จำกัด ผู้ให้บริการติดตั้งก๊าซรถยนต์รายใหญ่ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ธุรกิจรับติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซรถยนต์ในช่วงที่ผ่านมามีการลดกำลังการผลิตลงไป เพราะไม่มีลูกค้าเข้ามาติดตั้ง เนื่องจากราคาน้ำมันถูกลง ส่วนธุรกิจบริการหลังการขาย เอสซีจี ออโต้ เซอร์วิส ก็มีปริมาณรถที่ติดตั้งก๊าซเข้ามาใช้บริการน้อย ดังนั้นจึงมีแนวคิดปรับแผนธุรกิจด้วยการเปิด เอสซีจี คาร์ เซอร์วิส เพื่อรองรับทั้งรถยนต์ที่หมดระยะประกัน และรถที่ติดตั้งก๊าซรถยนต์

สำหรับเอสซีจี คาร์ เซอร์วิส มีการลงทุนประมาณ 60 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนวิภาวดี-รังสิต มีรูปแบบการให้บริการ อาทิ เปลี่ยนแบตเตอรี่ ,ใบปัดน้ำฝน ,คอยล์จุดระเบิด ,หัวเทียน ,ขัดโคมไฟหน้า ,น้ำยาเคลือบ ,สารเร่ง ,น้ำมันเครื่อง ,ล้างแอร์ ,ผ้าเบรก และงานซ่อมเบาทั้งหมด โดยสามารถรองรับการบริการ 30 – 50 จ๊อบต่อวัน

“เดิมทีเราดูแลเฉพาะรถที่ติดตั้งก๊าซ แต่เมื่อตลาดเปลี่ยนไป เราต้องมีการปรับตัว จึงตัดสินใจที่จะเพิ่มบริการอื่นๆเข้ามา และลงทุนเครื่องไม้เครื่องมือ ปรับโฉมศูนย์บริการ สร้างอาคารใหม่ ส่วนเรื่องบุคลากรนั้นเรามีความพร้อมอยู่แล้ว โดยเรามั่นใจว่าลูกค้าที่รถหมดระยะประกันจะเข้ามาใช้บริการเพราะมีราคาที่ถูกกว่าศูนย์บริการหลังการขายของค่ายต่างๆพร้อมทั้งมีแคมเปญออกมาอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญเรามีช่างที่มีมาตรฐานผ่านการอบรม ”

นายอภิสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เอสซีจี คาร์ เซอร์วิส ได้เริ่มทดลองเปิดตั้งแต่ต้นปี 2558 และในเดือนมีนาคมปี 2560 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างการรับรู้กับผู้บริโภค แต่ในเบื้องต้นที่เปิดบริการตอนนี้ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า มีการบอกต่อให้กลับมาใช้บริการ ขณะที่สัดส่วนของลูกค้าที่เข้ามารับบริการนั้น มีกลุ่มที่ใช้น้ำมันประมาณ 60% และ 40% คือกลุ่มผู้ที่ใช้ก๊าซ โดยประเมินว่าในปี 2560 สัดส่วนจะขยับเป็น 70% และ 30%

นอกเหนือจากบริการควิก เซอร์วิสแล้ว ในอนาคตมีแผนที่จะเพิ่มบริการโมดิฟาย การดัดแปลงเพอร์ฟอร์มานซ์รถยนต์ให้มีกำลังสูงขึ้น มีการปรับแต่งช่วงล่าง โดยมีกลุ่มเป้าหมายอาทิรถยุโรป หรือรถญี่ปุ่นที่เน้นสมรรถนะ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ด้านรายได้ที่ตั้งเป้าหมายไว้ จะอยู่ที่ 5 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ส่วนแผนงานขยายศูนย์บริการเพิ่มหรือไม่นั้น ต้องรอดูการตอบรับของสาขาแรกก่อน ปัจจุบันบริษัทฯมีศูนย์บริการในกรุงเทพอีก 2 แห่ง ได้แก่ รามอินทรา และกิ่งแก้ว

“ภาพรวมเศรษฐกิจโลกก็มีความเปราะบาง ดังนั้นการประกอบธุรกิจตอนนี้ก็ต้องประคองตัวกันไปก่อน และแม้ว่าเราจะมีแนวคิดที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องรอดูเวลาที่เหมาะสม ส่วนธุรกิจเดิมที่เราทำอยู่ก็ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ดีเราไม่ได้ทิ้งธุรกิจรับติดตั้งก๊าซไปทั้งหมด โดยยังคงไว้ เพราะอยู่ในธุรกิจนี้มานาน และเรายังคงให้บริการหลังการขายอยู่ โดยในจังหวัดต่างๆที่เคยเปิดศูนย์บริการเช่น เชียงใหม่ ,ขอนแก่น และหาดใหญ่ แม้จะปิดศูนย์ฯไปแล้วแต่จะมีรถโมบายเซอร์วิสคอยดูแลอยู่”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,208 วันที่ 10 - 12 พฤศจิกายน 2559