รอบด้านตลาดหุ้น by  Bualuang Securities  

04 พ.ย. 2559 | 05:00 น.
ดัชนีฯลงสลับรีบาวด์ 

เมื่อวานแรงขายหุ้น แบงก์ใหญ่ (KBANK BBL SCB) ท่องเที่ยว (AOT THAI โรงแรม) กดดันดัชนีฯลง ตามแรงขาย-นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งผิดไปจากที่เราประเมิน...

เราคาดจากแนวโน้ม Flows ที่ขายออกจากกลุ่มฯ ดังกล่าว มีโอกาสทำให้เงินเลือกที่จะพักอยู่ในหุ้น Defensive---โรงกลั่น (TOP BCP IRPC) โรงพยาบาล (BH BDMS RJH CHG) / กลุ่มสินเชื่อรายย่อย (MTLS SAWAD)---ตลาดวิตกประเด็นราคาสินค้าเกษตรลดลง ส่งผลบวกจิตวิทยากลุ่ม / หุ้นกลุ่ม ทีวี --- พบว่าราคาหุ้นเริ่มยืนได้ หลังสะท้อนแนวโน้ม งบการเงินชะลอลงในไตรมาส 4 คาดกลุ่มเหล่านี้จะ Outperform ตลาด กลายเป็นทางเลือกในการเล่นรอบ รอบนี้

แนวโน้มสัปดาห์นี้ คาดกรอบ 1,490-1,520 จุด กลยุทธ์แนะนำ 1) ซื้อเล่นรอบ/เลือกหุ้นรายตัว เน้นหุ้นที่มีโอกาสจะประกาศงบดีขึ้นหรือ ดีกว่าคาด 2) หุ้น Winner ศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ 3) หุ้นตัวเต็งติด MSCI รอบใหม่

ระยะเดือน (พย.) คาดกรอบ 1,480-1,530 จุด คาดหุ้นขึ้นหลังเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยประเด็นเลือกตั้งสหรัฐฯ คาดฉุดบรรยากาศลงทุนก่อนการเลือกตั้ง และ เราเชื่อว่าหลังวันเลือกตั้งผ่านไปหุ้นจะขึ้น เหมือนตอนโหวต “Brexit” ที่ผันผวนตามกระแสแค่ระยะสั้นเท่านั้น แนะนำ หุ้นสถาบันการเงิน (แบงก์ ประกัน และ สินเชื่อบุคคล) หุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ (ถ่านหิน โรงกลั่น เหล็ก เนื้อสัตว์) รับเหมาก่อสร้าง และ ค้าปลีก

หุ้นแนะนำวันนี้ WORK แนวรับ 38.50 บ. ต้าน 40/41บ./MONO แนวรับ 2.84 บ. ต้าน 3.14 บ.

รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้   

(+) Quantitative Strategy (การวิเคราะห์เชิงปริมาณ) คาดดัชนีพักฐานในช่วงต้นเดือนในกรอบ 1,470-1,500 จุด และคาดดัชนีจะแรลลี่ขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่3 ของเดือนนี้ (17-18 พ.ย.) ยังคงเป้าหมายดัชนีที่ 1,500-1,580 จุด หุ้นแนะนำ BCP IVL TTCL

(+) BA คาดกำไร 3Q16 ที่ 583 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% YoY และพลิกจากขาดทุนใน 2Q16 สำหรับกำไรหลักเราคาดที่ 531 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% YoY และ 79% QoQ ได้ปัจจัยหนุนจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ราคาค่าตั๋วเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น และต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกลง นอกจากนี้เราคาดผลประกอบการจะดีขึ้น YoY อีกใน 4Q16 เพราะจำนวนผู้โดยสายยังคงเติบโตขึ้น และผลกระทบจากทัวร์ศูนย์เหรียญจำกัดเพราะ BA เป็นสายการบิน premium และด้วยแนวโน้มต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกกว่าคาดและราคาตั๋วเฉลี่ยที่สูงกว่าคาด เราปรับกำไรปี 2016-17 ขึ้น 5% และ 3% เป็น 2,324 และ 2,971 ล้านบาท ตามลำดับ และปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 29.25 บาท (เดิม 29 บาท)

(-) LPN กำไรหลัก 3Q16 อยู่ที่ 310 ล้านบาท ลดลง 69% YoY และ 65% QoQ ต่ำกว่าคาด 12% เพราะยอดขายหดตัวลงเป็น 2.3 พันล้านบาท 61% YoY และ 54% QoQ เพราะไม่มีคอนโดใหม่เริ่มโอน สำหรับ 4Q16 เรามองว่ากำไรจะดีขึ้นจากฐานกำไรที่ต่ำมากจาก 4Q16 และ 3Q16 แต่เรามองว่า outlook ในปีหน้ายังไม่น่าสนใจนักเพราะบริษัทมี backlog น้อยเมื่อเทียบกับประมาณการรายได้ เราปรับกำไรปี 2016-17 ลง 5% และ 33% เป็น 2,339 และ 1,792 ล้านบาท เพื่อสะท้อน backlog ที่มีน้อย แต่ด้วยราคาหุ้นที่ลงมาจนถูกมาก และคาดบริษัทจะยังสามารถรักษาระดับเงินปันผลที่ 7-8% ได้ เราคงคำแนะนำ ถือ

(+) BH รายงานกำไรแข็งแกร่งที่ 964 ล้านบาท 16%YoY และ 14%QoQ มากกว่าตลาดคาด 9% (แต่ป็นไปตามที่เราคาด) กำไรที่ดีขึ้นได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.5 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6% YoY และ 6% QoQ) เพราะจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทั้งไทยและผู้ป่วยต่างประเทศ สำหรับ 4Q16 คาดกำไรจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง YoY เพราะรายได้ที่ยังคาดเติบโตต่อเนื่องตามจำนวนผู้ป่าวยที่เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เราคงประมาณการกำไร และคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 250 บาท

(-) PSL รายงานผลประกอบการ 3Q16 ขาดทุนสุทธิ 860 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ. หากไม่รวมรายการพิเศษผลขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 245 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น YoY แต่ขาดทุนลดลง QoQ ผลขาดทุนที่เพิ่มขึ้น YoY เป็นเพราะราคาค่าขนส่งเฉลี่ยที่ลดลงและจำนวนเรือที่ใช้งานลดลง สำหรับ 4Q16 เราคาดผลประกอบการมีแนวโน้มที่ดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เพราะค่าเฉลี่ย BDI ปรับตัวสูงขึ้น 35% YoY และ 18% QoQ จากการ BDI ที่เพิ่มขึ้น เราปรับประมาณการปี 2016 ขึ้น (ขาดทุนลดลง) เป็นขาดทุน 1,340 ล้านบาท และด้วยราคาหุ้นที่เทรดถูกเพียง PBV 0.7 เท่า หนุนด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่ดีขึ้น เราคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมาย 8.20 บาท

(-) MCOT คาดผลประกอบการ 3Q16 ขาดทุน 124 ล้านบาท พลิกจากที่เคยกำไรใน 3Q15 และขาดทุนเพิ่มขึ้น 93%QoQ ผลประกอบการที่แย่ลงเกิดจากรายได้ค่าโฆษณาลดลงจากการแข่งขันที่สูงขึ้น การตั้งสำรองกาณ๊ GMMB ที่ยังไม่ชำระค่าบริการ และมีการบันทึกต้นทุนโอลิมปิกเข้ามา สำหรับ 4Q16 เราคาดจะอ่อนตัวลงต่อเนื่องไปจนถึง 1Q17 อย่างไรก็เราเรายังคงแนะเป็นการเก็งกำไรตามกระแสข่าวการได้เงินเยียวยาในกรณีคืนคลื่น 2600 MHz ให้กับ กสทช. ราคาเป้าหมาย 18 บาท

หุ้นมีข่าว-ประเด็น        

(+) WAVE เมื่อวานแจ้งตลาด WAVE ขายหุ้น TSE 10% (181.5 ล้านหุ้น) ในราคาหุ้นละ 4.85 บาท รวมเป็นเงิน 880.275 ล้านบาท ให้กับ STEC / คิดเป็นเงินสดรับเข้า WAVE ต่อหุ้นประมาณ 2 บาท/หุ้น (ที่มา ตลท.)

(+) THAI ตลาดคาด 3Q16 มีกำไร 311 ล้านบาท (พลิกจากขาดทุน) ที่มา ข่าวหุ้น

(0/-) การเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ระยะที่ 2 จำนวน 519 เมกะวัตต์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) คาดว่าจะเปิดรับซื้อในช่วงต้นปีหน้า ...ทั้งนี้ ราคารับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) เดิมราคารับซื้ออยู่ที่ 5.66 บาท/หน่วย แต่ภายหลังคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา ปรับลดลงเหลือ 4.12 บาท/หน่วย เนื่องจากต้นทุนแผงและค่าติดตั้งปรับลดลง จากเดิมอยู่ที่ 54 ล้านบาท/เมกะวัตต์ในปี 57 ลดลงเหลือ 42 ล้านบาท/เมกะวัตต์ในปี 59 ดังนั้น คาดว่าการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์ฟาร์มสำหรับหน่วยงานราชการฯ ระยะที่ 2 จะใช้อัตรา FiT ที่ 4.12 บาท/หน่วย (ที่มา อินโฟเควส)

(+) BTW แจ้งตลาดได้งานโครงสร้างเหล็ก มูลค่ารวม 372.03 ล้านบาท จาก 1) โครงการโรงไฟฟ้า เซนต์ ชาร์ลส์ หลุยเซียน่า 2) โรงไฟฟ้า แม่เมาะ 3) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม Alba บาห์เรน (ที่มา ตลท.)

(+) ขายซองรถไฟทางคู่ ช่วงประจวบ-ชุมพร 26 พย.-2ธค. นี้ เคาะราคา 3 กพ. 60 (ที่มา อินโฟเควส)

(+) กลุ่มเหล็ก "ก.พาณิชย์"กำหนดใช้มาตรการชั่วคราวตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อน ป้องกันความเสียหายอุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศ

1. ให้กำหนดใช้มาตรการชั่วคราวตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดเป็นม้วน และไม่เป็นม้วน จากบราซิล อิหร่าน และตุรกี เนื่องจากผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกจากประเทศดังกล่าวได้ส่งสินค้าเข้ามา ทุ่มตลาดและก่อให้เกิดความเสียอย่างสำคัญแก่อุตสาหกรรมภายใน

2. ให้กำหนดใช้มาตรการชั่วคราวตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าหลอดและท่อทำด้วยเหล็กหรือเหล็กกล้า จากจีนและเกาหลีใต้ เนื่องจากผู้ผลิตหรือผู้ส่งออกจากประเทศดังกล่าวได้ส่งสินค้าเข้ามาทุ่มตลาดและก่อให้เกิดความเสียอย่างสำคัญแก่อุตสาหกรรมภายใน

3. เห็นชอบในร่างผลการทบทวนอัตราอากรตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กลวดคาร์บอนสูงรวมถึง เหล็กลวดคาร์บอนสูงที่เจือธาตุอื่นจากจีน (ที่มา Bangkok biznew)

(-) TKN กลต.รายงาน ประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์ ขาย 0.15% เหลือ 4.86% (ที่มา กลต.)

(+) ROJNA แจ้งตลาด เริ่มโครงการซื้อหุ้นคืน ตั้งแต่ 21 พย. 59 ถึง 19 พค. 60 ใช้เงิน ไม่เกิน 100 ล้านบาท ซื้นคืนไม่เกิน 22 ล้านหุ้น (Implied ราคา 4.55 บ.) ที่มา ตลท.

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

(-) วันศุกร์ US การจ้างงานนอกภาคเกษตร ตค. คาด +1.65 แสน จาก 1.56 แสน, US อัตราว่างงาน ตค. คาด +4.9% จาก 5% EU PMI composite คาด 53.7 คงที่, ฟิลิปปินส์ CPI คาด 2.3% คงที่, มาเลเซีย ส่งออก คาด -2% จาก +1.5% y-y.  (ที่มา Bloomberg)

  ที่มา:บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง