รอบด้านตลาดหุ้น by  Bualuang Securities  

02 พ.ย. 2559 | 03:40 น.
เลือกตั้งสหรัฐฯ...ส่งผลผันผวนแค่ระยะสั้น    

วันนี้คาด Sideways กรอบ 1,487-1,507 จุด ประเด็นเลือกตั้งสหรัฐฯฉุดบรรยากาศลงทุนหุ้นโลก จาก นิวยอร์คโพล เช้านี้ คะแนนทรัมป์ยังคงไล่ขึ้นมาต่อเนื่องโดย คลินตัน 45.6 Vs. ทรัมป์ 41.7 บางโพลอาทิ ABC news/ วอชิงตันโพสต์ ชี้ ทรัมป์คะแนนนำ 1 จุด (คาดส่งผลจิตวิทยาลบระยะสั้น เรายังเชื่อว่าหลังวันเลือกตั้งผ่านไปหุ้นจะขึ้น เหมือนตอนโหวต “Brexit” ที่ผันผวนตามกระแสแค่ระยะสั้น)

แนวโน้มสัปดาห์นี้ คาดกรอบ 1,490-1,520 จุด กลยุทธ์แนะนำ 1) ซื้อเล่นรอบ/เลือกหุ้นรายตัว เน้นหุ้นที่มีโอกาสจะประกาศงบดีขึ้นหรือ ดีกว่าคาด 2) หุ้น Winner ศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ 3) หุ้นตัวเต็งติด MSCI รอบใหม่ ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด คาด Neutral...ประชุมเฟด คาดคงดอกเบี้ย และอังกฤษ คง QE/ดอกเบี้ย, วิตกรายวัน-เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเร่งตัวขึ้น เงินเฟ้อเพิ่ม, ISM ภาคผลิตทรงตัวในระดับสูง และการจ้างงานสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น การรอผลเลือกตั้งสหรัฐฯ ฯลฯ

ระยะเดือน-ดัชนีฯรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา (นับจาก Bottom ของวันที่ 12 กย.2016) พบว่า กลุ่มฯที่ถูกซื้อ ขึ้นมาจนให้ผลตอบแทนเกิน 10% ได้แก่ พลังงาน ค้าปลีก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนที่กลุ่มที่โดนขายมากสุด คือ แบงก์ ขนส่ง และ วัสดุก่อสร้าง ผลตอบแทนกลุ่มเหล่านี้ซึ่งเป็นตัวแทนดัชนีฯ สะท้อน ทิศทางหุ้นที่ถูกเพิ่มน้ำหนัก และ ลดน้ำหนัก ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเราคาดว่าหุ้นที่ถูกเพิ่มน้ำหนักเข้าไปมาก การจะซื้อต่อเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าดัชนีฯ น่าจะทำได้ยาก ขณะที่หุ้น สถาบันการเงิน (แบงก์ ประกัน และ สินเชื่อบุคคล) เราคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนัก หรือ ซื้อกลับคืน ในรอบถัดไป โดยเชื่อว่าการซื้อหุ้นกลุ่มนี้จากตรงนี้ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดได้

หุ้นแนะนำวันนี้ ข่าวบวก ผลประชุม ครม.เมื่อวานเป็นบวกต่อกลุ่มขายสายส่งไฟฟ้า และงานสร้าง (EPC) สถานีส่งไฟฯ...ครม. อนุมัติ งานสายส่งไฟฟ้า และ สถานีไฟฟ้า ของ กฟภ.มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาทในปีหน้า (ปีนี้งานออกไปแล้ว 9.4 พันล้านบาท): CTW เทคนิค แนวรับ 10.10 บ. แนวต้าน 10.80-11 บาท / ILINK แนวรับ 20.5 บ. ต้าน 21.5 บ.

เล่นธีมงบดีขึ้น COM7 แนวรับ 12.8 บ. แนวต้าน 13.5/14 บ. คาดประกาศงบ 7 พย. มีแนวโน้มโตดีกว่าตลาดคาด, MTLS แนวรับ 18.6 บ. ต้าน 19.5 บ. คาดจะประกาศงบฯ 10 พย. เราคาดกำไรกรณีอนักษ์นิยม 330 ล้านบาท มีแนวโน้มกำไรโตดีกว่าตลาดคาด

รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้   

(+) SCB ประเด็นจากการประชุมนักวิเคราะห์ 1) คาดธนาคารจะสามารถผลักดันสินเชื่อให้เติบโตได้ตามเป้า 4-6% ในปีนี้ ซึ่งในไตรมาส 4 จะได้ปัจจัยหนุนจากสินเชื่อการทำ tender JAS และค่าธรรมเนียมส่วนนี้อีกด้วย สำหรับปี 2017 ธนาคารยังคงตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตราว 4-5% 2) คาด NPL จะเริ่มลดลงตั้งแต่ 4Q16 นี้ และปี 2017 จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เราคงประมาณการกำไรปี 2016-17 ที่ 47.8 และ 55.8 พันล้านบาท คาดจะมี flow ปรับกำไรของธนาคารขึ้นจากตลาด เพราะภาวะ NPL ที่ที่จะกลับสู่ปกติในปีหน้า เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 182 บาท

(-) THREL รายงานกำไรสุทธิ 3Q16 ที่ 64 ล้านบาท ลดลง 9% YoY และ 38% QoQ ต่ำกว่าที่เราคาด 35% จาก Loss ratio ที่สูงกว่าคาด โดยเราประเมินไว้ที่ 53% ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ในขณะที่ตัวเลขที่ออกมา 56.9% จากตัวเลขที่ออกมามากกว่าที่คาดเรามีการปรับประมาณการ Loss ratio ขึ้นเป็น 80% จาก 76% ในปี 2016 และ 2017 เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 2016 ลง 13% ที่ 390 ล้านบาท และปี 2017 ลง 16% ที่ 420 ล้านบาท ปรับราคาเป้าหมายลง 7.7% อยู่ที่ 11 บาท เราปรับคำแนะนำลง จาก ซื้อ เป็น ถือ

(-) BEC เราประเมินกำไรสุทธิ 3Q16 ที่ 415 ล้านบาท ลดลง 49% YoY และ 11% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษการเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชี กำไรหลักคาดอยู่ที่ 440 ล้านบาท ลดลง 46% YoY และ 10% QoQ จากรายได้ค่าโฆษณาที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ยังสูงของทั้ง 3 ช่อง อีกทั้งยังมีการรับรู้ต้นทุนจากการออกอากาศ 2 รายการกีฬาใหญ่ ฟุตบอลยูโร 2016 และโอลิมปิก เรามองว่าจะยังคงไม่เห็นพัฒนาการฟื้นตัวของกำไรไปอีก 2 ไตรมาส (ได้รับผลกระทบใน 4Q16 เพิ่มอีก) เรายังคงคำแนะนำ ถือ

(+) GPSC คาดกำไร 3Q16 ที่ 719 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%YoY และ 5%QoQ กำไรที่เติบโตขึ้นได้ปัจจัยหนุนจากรายได้เงินปันผล คาดราว 220 ล้านบาท สำหรับ 4Q16 คาดกำไรหดตัวลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลและการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า เราคงแนะนำ ถือ

(0) กลุ่มสื่อฯ เราได้จัดทำประมาณการกำไร 3Q16 (รายละเอียดดูในรายงานฉบับเต็ม) โดยบริษัทที่คาดว่าจะมีการเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ได้แก่ WORK, PLANB และ VGI ในขณะที่ GRAMMY คาดขาดทุนลดลงทั้ง YoY และ QoQ สำหรับ 4Q16 คาดเม็ดเงินจะชะลอตัวลงแต่เราเชื่อว่ากลุ่มสื่อนอกบ้าน, ขนส่งมวลชน รวมถึงโรงภาพยนตร์จะได้รับผลกระทบน้อยกว่าผู้ประกอบการทีวี อย่างไรก็ตามเรามองกลุ่มทีวีดิจิตอลเป็นโอกาสที่น่าเข้าสะสมจากกำไรใน 4Q16 ที่น่าจะเป็นจุดต่ำสุด และจะมีการฟื้นตัวกลับมาในช่วงปีหน้า (ซื้อในช่วงต่ำสุด) แนะกลับเข้าสะสมผู้เล่นที่มีเรตติ้งสูง (WORK, MONO และ RS) โดยรวมเรายังคง ชื่นชอบ WORK, MONO และ PLANB

หุ้นมีข่าว-ประเด็น       

(+) CTW ILINK SAMART CSS DEMCO ครม.อนุมัติ กฟภ.ทำโครงการพัฒนาระบบส่ง-จำหน่ายไฟฟ้าระยะ 1 (ปี 59-64) รวม 6.27 หมื่นลบ. เพื่อพัฒนาระบบไฟฟ้าและก่อสร้างสถานีไฟฟ้า

โครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่ายระยะที่ 1 มีระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี แบ่งเป็น การลงทุนในปี 59 ใช้เงินลงทุนราว 9,400 ล้านบาท, ปี 60 ลงทุน 17,000 ล้านบาท, ปี 61 ลงทุน  17,500 ล้านบาท, ปี 62 ลงทุนราว 17,000 ล้านบาท, ปี 63 ลงทุน 1,250 ล้านบาท และปี 64 ลงทุน 120 ล้านบาท หลังจากนั้นจะการดำเนินการในระยะที่ 2 ต่อไป (ที่มา ครม.)

(+) KTC AEONTS ครม. มีมติอนุมัติให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนที่ลงทุนในเครื่องชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) โดยถ้าต้องการเป็นผู้บริการรายใหม่ สามารถนำค่าใช้จ่ายในการลงทุนหรือการวางเครื่องนี้ไปหักรายจ่ายได้ 2 เท่าของรายจ่ายจริง โดยเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 100% และหักค่าเสื่อมอีก 100% ตามหลักเกณฑ์ที่จะประกาศต่อไป และที่สำคัญจะต้องเป็นเครื่องใหม่เท่านั้น

พร้อมกันนี้ ครม.ยังอนุมัติให้นำค่าธรรมเนียมส่วนลดร้านค้า (Merchant Discount Rate) ที่เกิดจากการใช้บัตรเดบิต นำไปหักรายจ่ายได้ 2 เท่า ซึ่งจะทำให้ร้านค้าที่รับเครื่อง EDC สามารถลดต้นทุนในการใช้ผ่านบัตรเดบิตได้ดีขึ้น ส่งผลทำให้มีร้านค้าที่จะรับชำระเงินผ่านบัตรเดบิตมากขึ้น (ที่มา ครม.)

(+) JASIF ประกาศจ่ายเงินปันผลรวม 0.2709 บาท/หน่วย (ที่มา ตลท.)

(+) CK STEC SEAFCO PYLON และวัสดุเหล็ก BSBM TMT: ครม.อนุมัติ รถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง นครปฐม-หัวหิน, หัวหิน-ประจวบ, ลพบุรี-ปากน้ำโพ รวม 5.5 หมื่นล้านบาท (ที่มา ครม.)

(+) AJD คาดจะประกาศงบ 15 พย. Consensus คาดกำไร 3Q16 ราว 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,105% จาก 2Q15 มีกำไร 8.3 ล้านบาท และลดลง 21% จาก 2Q16 ที่มีกำไร 126 ล้านบาท (ที่มา IAA consensus) ตลาดคาดทั้งปีมีกำไร ราว 400 ล้านบาท สะท้อน PE 20 เท่า แต่กำไรโต 6,170% ขณะที่กลุ่ม PE 30-40 เท่า

(+) DEMCO แจ้งตลาดฯ ได้งาน ระบบสายส่ง 115 KV มูลค่างาน 404.28 ล้านบาท (ที่มา ตลท.)

(+) CP group ผนึก อาลีบาบา ยึดตลาด E-Payment เอเชีย (ที่มา ฐานเศรษฐกิจ)

(+) RML โครงการ Mews มูลค่า 700 ล้านบาท และ Loft เอกมัย 2.2 พันล้านบาท เริ่มขาย Presale คาดจะ Secure backlog ในปีหน้าได้ตามเป้า (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TOP ท่อส่งน้ำมันเบนซิน Colonial ระเบิด ส่งผลให้อุปทานลดลง (ที่มา ASPEN)

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

(0) พุธ FOMC meeting คาดเฟดคงดอกเบี้ย 0.25-0.50%, EU PMI mfg. ตค. คาด 53.3 คงที่, ญี่ปุ่น Consumer confidence index ตค.  (ที่มา Bloomberg)

(0/+) พฤหัส US ISM ภาคบริการ คาด 56 จาก 57.1, US Nonfarm productivity คาด +1.6% จาก  -0.6%, ECB Economic bulletin และ อัตราว่างงาน EU, ธนาคารกลางอังกฤษ คาด คงดอกเบี้ย 0.25% และคง QE 4.35 แสนล้านปอนด์, ตลาดหุ้นญี่ปุ่นหยุด (ที่มา Bloomberg)

(-) วันศุกร์ US การจ้างงานนอกภาคเกษตร ตค. คาด +1.65 แสน จาก 1.56 แสน, US อัตราว่างงาน ตค. คาด +4.9% จาก 5% EU PMI composite คาด 53.7 คงที่, ฟิลิปปินส์ CPI คาด 2.3% คงที่, มาเลเซีย ส่งออก คาด -2% จาก +1.5% y-y.  (ที่มา Bloomberg)

(-) ตลาดหุ้นจีนเตรียมเปิดซื้อขายหุ้นปลดล็อก 1.306 แสนล้านหยวน (ราว 1.95 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นในสัปดาห์นี้ โดยหุ้นของบริษัท Guangdong Wen's Foodstuff Group Co. จะถูกปลดล็อกจำนวน 3.07 พันล้านหุ้น มูลค่าเกือบ 1.119 แสนล้านหยวน ซึ่งถือเป็นหุ้นกลุ่มใหญ่ที่สุดที่จะเปิดซื้อขายในตลาดในสัปดาห์นี้

ที่มา:บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง