บีโอไอฟื้นส่งเสริมกิจการผลิตอาหารสัตว์

01 พ.ย. 2559 | 05:15 น.
บีโอไอฟื้นส่งเสริมกิจการผลิตอาหารสัตว์ - ส่วนผสมอาหารสัตว์หนุนไทยเป็นฐานการวิจัยพัฒนาและผลิตอาหารสัตว์ของภูมิภาค

นางหิรัญญา  สุจินัย  เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ บีโอไอ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า ที่ประชุมเห็นชอบเปิดให้การส่งเสริมกิจการผลิตอาหารสัตว์หรือส่วนผสมอาหารสัตว์   โดยสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจะแบ่งเป็น2 กรณี คือ 1 หากมีเฉพาะขั้นตอนการผลิต จะได้รับสิทธิประโยชน์ที่มิใช่ภาษีตามประเภท B1 และกรณีที่ 2 หากมีการลงทุนด้านการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรม จะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเพิ่มเติมตามคุณค่าของโครงการ

ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่า อุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์ของไทยเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำของภาคการเกษตร มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์ และมีความจำเป็นต่ออุตสาหกรรมการผลิตอาหาร      แปรรูป นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ยังมีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้เหมาะสมกับการเลี้ยงสัตว์แต่ละชนิดแต่ละประเภท เช่น สัตว์เศรษฐกิจที่เน้นการเจริญเติบโตและลดต้นทุน หรือสัตว์เลี้ยงที่เน้นมีสุขภาพดี อายุยืนยาว ลดความเสี่ยงจากโรคหรือเชื้อปนเปื้อน ดังนั้น การยกระดับมาตรฐานการผลิตและคุณภาพอาหารสัตว์จึงมีความสำคัญและควรได้รับการส่งเสริม

“บีโอไอได้ยกเลิกการส่งเสริมลงทุนในประเภทกิจการผลิตอาหารสัตว์ไปเมื่อสิ้นปี 2557 เพื่อให้มีการกำหนดประเภทกิจการที่เป็นไปตามนโยบายส่งเสริมการลงทุนใหม่ โดยเปิดให้การส่งเสริมการลงทุนในกิจการดังกล่าวเป็นรูปแบบชั่วคราวเฉพาะกิจการที่ตั้งในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษและชายแดนภาคใต้เท่านั้น  อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันต้องยอมรับว่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 ต่อปี การส่งออกก็มีแนวโน้มขยายตัว ขณะที่ผู้ประกอบการต่างๆ ได้ให้ความสำคัญกับการทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  จากทิศทางดังกล่าวบีโอไอจึงได้เปิดให้การส่งเสริมกิจการอาหารสัตว์ ส่วนผสมอาหารสัตว์ และอาหารสัตว์เลี้ยงขึ้นอีกครั้ง  โดยมั่นใจว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นแหล่งรองรับการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาด้านอาหารสัตว์ ส่วนผสมอาหารสัตว์ และอาหารสัตว์เลี้ยงได้ในอนาคต  เพราะไทยมีความพร้อมในด้านการผลิตอาหารที่ปลอดภัยตรวจสอบได้ และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีวัตถุดิบจำนวนมาก” เลขาธิการบีโอไอกล่าว

ปรับเงื่อนไขส่งเสริมคลัสเตอร์อากาศยาน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังพิจารณาถึงเงื่อนไขในการส่งเสริมการลงทุนคลัสเตอร์อากาศยาน ซึ่งกำหนดไว้ว่า ต้องตั้งสถานประกอบการใน 14 จังหวัดที่มีสนามบินหรือใกล้เคียงสนามบิน อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมอากาศยานเป็นอุตสาหกรรมใหม่ การลงทุนเพื่อผลิตชิ้นส่วนหรือเครื่องมือเครื่องใช้ใน     อากาศยานยังมีจำนวนน้อยและยังไม่มีการกระจุกตัวในรูปแบบคลัสเตอร์ที่ชัดเจนเหมือนคลัสเตอร์ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์

ขณะที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนอากาศยานขนาดกลางและขนาดเล็ก ไม่มีความจำเป็นจะต้องไปตั้งโรงงานใกล้สนามบินก็สามารถส่งมอบชิ้นส่วนได้ ซึ่งแตกต่างจากการซ่อมอากาศยานหรือชิ้นส่วนที่จำเป็นต้องตั้งโรงงานใกล้สนามบิน นอกจากนี้ยังมีผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยหลายรายกำลังพัฒนาการผลิตเพื่อให้สามารถรับช่วงการผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนให้อุตสาหกรรมอากาศยานเติบโตได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และเพิ่มโอกาสให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยที่ไม่ได้ตั้งโรงงานในพื้นที่ 14 จังหวัดที่มีสนามบิน ที่ประชุมจึงมีมติยกเลิกเงื่อนไขเรื่องที่ตั้งของกิจการในคลัสเตอร์อากาศยาน ซึ่งตามนโยบายเดิมกำหนดให้ต้องตั้งกิจการในพื้นที่ 14 จังหวัด