โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่ายังไม่เปิดใช้วิธีการจองบัตรคิวล่วงหน้าทางระบบอิเล็กทรอนิกส์แต่อย่างใด ยืนยันว่าคงใช้ระบบเดิมเนื่องจากเป็นห่วงผู้เข้าไม่ถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็นจะเสียสิทธิ์
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการจัดระเบียบขั้นตอนการเข้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า กรณีที่กระทรวงมหาดไทยต้องการช่วยเหลือประชาชนและอำนวยความสะดวกประชาชนต่างจังหวัดที่เดินทางมาด้วยตนเองลำบาก เพื่อจะเข้าถวายบังคมพระบรมศพ วันละ 3,000 คน จาก 30,000 คน ซึ่งคงไม่ทำให้อีก 27,000 คน กระทบกระเทือน เพราะมีการรับบัตรคิวตามระบบ แบบกลุ่มเข้าไปแบบชุด ทำให้เร็วขึ้น จากเดิมวันละ 10,000 คน ก็เพิ่มเป็น 30,000 คน การใช้ระบบดังกล่าวถือว่าเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้เต็มที่ ทั้งนี้ หากในพื้นที่มีการรับบัตรคิวครบแล้วจะมีการแจ้งต่อประชาชนทันที
สำหรับกระแสข่าวการใช้วิธีการจองคิวล่วงหน้าทางระบบอิเล็กทรอนิกส์นั้น ยืนยันว่าคงใช้ระบบเดิม เพียงแต่ผู้บังคับบัญชาให้ลองไปคิดการแจกบัตรบัตรออนไลน์ด้วยว่าสามารถนำวิธีการดังกล่าวนี้มาใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ หากเกิดความเหลื่อมล้ำก็ไม่ควรนำมาใช้ เพราะเป็นห่วงว่าจะทำให้ผู้ที่เข้าไม่ถึงระบบคอมพิวเตอร์หรือใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็นจะเสียสิทธิ์
ส่วนกรณีที่มีการเปลี่ยนจุดรับบัตรคิวนั้น พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด กล่าวว่า ฝั่งใต้ที่อยู่ติดพระบรมมหาราชวังขณะนี้ใช้เป็นพื้นที่รองรับประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าค่อย ๆ ปรับย้ายคนและการบริการจากพื้นที่ฝั่งใต้ไปฝั่งเหนือ เพื่อเตรียมการก่อสร้างพระเมรุ แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องอาหารเพราะกทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีสำรวจพบว่ามีอาหารเพียงพอสำหรับประชาชนที่เดินทางไปท้องสนามหลวง จึงขอให้สื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ในเรื่องของการบริโภคอาหารว่า เมื่อรับอาหารแล้วควรบริโภคให้หมดอย่าทิ้งขว้าง เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงสำคัญที่ควรเห็นอกเห็นใจกันเอื้อเฟื้อต่อกันและกันจะได้เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปสังคม