รมว.คมนาคม กำชับระบบขนส่งสาธารณะทุกระบบ คุมเข้มความปลอดภัย การให้บริการรับส่งผู้โดยสารไปสนามหลวงและพระบรมมหาราชวัง เพื่อเข้าสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้บริหารหน่วยงานต่างๆของกระทรวงคมนาคม เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมเจ้าท่า องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) และ บริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.)เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการเดินทางเข้ามาถวายบังคม และสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันพรุ่งนี้(29 ต.ค.59) โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานคุมเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกในการเดินทางเชื่อมต่อจากสถานีรถไฟฟ้าไปยังท่าเรือ โดยเฉพาะท่าเรือมหาราชและท่าเรือสาทร ที่คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก
โดยกรมเจ้าท่าจะจัดเจ้าหน้าที่ประมาณ 140 คน และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครอีก 20 คน เข้ามาดูแลความปลอดภัยที่ท่าเรือโดยสารทุกแห่ง และจัดเรือตรวจการณ์ 8 ลำ เพื่อดูแลความปลอดภัย พร้อมทั้งจัดเรือข้ามฟากและเรือด่วนเจ้าพระยาให้บริการรับส่งฟรี ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. พร้อมทั้งร่วมมือกับผู้ประกอบการเรือภัตตาคาร นำเรือมาให้บริการเพิ่มเติม คาดว่าจะรองรับผู้โดยสารได้วันละกว่า 100,000 คน
ส่วน ขสมก.ได้จัดรถเมล์ร้อนให้บริการฟรี จำนวน 390 คัน ใน 25 เส้นทาง และรถชัทเทิลบัส อีก 200 คันใน 15 เส้นทางจากหลายจุดสำคัญในกรุงเทพมหานคร ไปยังท้องสนามหลวง พร้อมทั้งเตรียมนำรถเมล์จำนวน 10 % จากทุกเส้นทาง มาวิ่งให้บริการเสริม แม้ว่าจะมีการปิดเส้นทางรอบสนามหลวง แต่รถเมล์ขสมก.ยังสามารถเข้าไปจอดรับส่งผู้โดยสารได้ใน 4 จุด คือ หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ,วงเวียนหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ,ใต้สะพานพระปิ่นเกล้า และหน้ากองสลากฯ ถนนราชดำเนิน
การรถไฟแห่งประเทศไทย คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเข้ามาสักการะพระบรมศพ เฉลี่ยวันละ 1 แสนคน โดยเฉพาะวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ได้จัดเพิ่มตู้โดยสารเต็มจำนวนในขบวนรถไฟฟรี ในเส้นทาง กรุงเทพฯ-สุรินทร์ / กรุงเทพฯ-ขอนแก่น และกรุงเทพฯ-พิษณุโลก และจัดรถขบวนพิเศษเพิ่มเติม ในเส้นทางกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา/ กรุงเทพฯ-นครปฐม และกรุงเทพฯ-ธนบุรี รวมวันละ 6 เที่ยว ซึ่งมาตรการดังกล่าวคาดว่าจะรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดวันละ 120,000 คน และจะใช้มาตรการดังกล่าวต่อเนื่องไปเป็นระยะเวลา 6 เดือน
ส่วน บขส.ได้เพิ่มเที่ยวรถโดยสารอีก 25 % ซึ่งคาดว่าจะรองรับผู้โดยสารได้วันละประมาณ 3 แสนคน พร้อมทั้งจัดจุดจอดรถรองรับไว้ในบริเวณสถานีขนส่ง หากยังไม่เพียงพอจะประสานงานกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อขอพื้นที่ใช้เป็นจุดจอดรถเพิ่มเติม
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ขอความร่วมมือให้ประชาชนใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ แทนการใช้รถส่วนตัว หรือรถแท็กซี่ เนื่องจากจะมีการปิดการจราจรโดยรอบพระบรมมหาราชวัง 27 เส้นทาง ทำให้รถยนต์ส่วนบุคคลไม่สามารถเข้าพื้นที่ดังกล่าวได้ พร้อมยืนยันว่าระบบขนส่งต่างๆ จะเพียงพอรองรับการเดินทางของประชาชน