KTBST ประเมินหุ้นไทยวันนี้ (25 ต.ค.)ดัชนียังไปต่อได้อีกเล็กน้อย

25 ต.ค. 2559 | 02:42 น.
บล.KTBST ประเมินหุ้นไทยวันนี้ (25 ต.ค.) ดัชนียังไปต่อได้อีกเล็กน้อย แต่แกว่งตัวในลักษณะ sideway จากแรงซื้อยังจำกัด

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (25 ต.ค.) ทิศทางตลาดหุ้นส่วนใหญ่ อยู่ในกรอบ sideway เนื่องจาก นักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อหุ้นลง หลังปัจจัยที่เคยเป็นบวกต่อตลาดหลายๆตัวเริ่มลดจำนวนลง การสูงขึ้นของตลาดหุ้นบางแห่งเป็นผลให้นักลงทุนเริ่มขายทำกำไรกัน ตัวแปรสำคัญตัวหนึ่ง คือ เรื่องดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นดัชนี benchmark ของดอกเบี้ยของประเทศอื่นๆ ซึ่งในวันนี้นักลงทุนเริ่มรับรู้และปรับพอร์ตรอรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯไปบ้างแล้ว นอกจากนี้ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งประธานาธิบดีเข้ามา จะทำให้นักลงทุนต่างรอดูผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากมีผลต่อนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯในช่วงต่อไป โดยเฉพาะหากนายทรัมป์เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ส่วนผลกำไรไตรมาส 3 ที่กำลังมีการรายงานอยู่เป็นปัจจัยเฉพาะตลาด และยังส่งผลบวกมาถึงตลาดหุ้นอื่นๆ เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด ขณะที่ในคืนที่ผ่านมา ตัวเลข PMI ของยุโรป เดือน ต.ค.เพิ่มจาก 52.6 เป็น 53.7 จุด ในเดือนนี้ บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยุโรปขยายตัวดี

ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนตัวลง หลังการหารือระหว่างผู้ผลิตน้ำมัน รวมถึงรัสเซียและซาอุฯ ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ที่ผลการหารือออกมาเพียงแค่ผู้ผลิตน้ำมันจะให้ความร่วมมือกัน แต่ยังไม่สามารถกำหนดโควต้าผลิตน้ำมันของประเทศที่จะเข้าร่วมโครงการได้ ทำให้นักลงทุนต้องมารอดูกันต่อว่า ก่อนที่จะถึงวันประชุม OPEC กับผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม (30 พ.ย.) จะมีตัวเลขโควต้าผลิตออกมาหรือไม่ ช่วงสั้นๆ จะทำให้ราคาน้ำมันดิบทรงๆตัวแถว $50 เหรียญ

ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ความกังวลที่มีต่อบางปัจจัยกำลังลดระดับลง จึงดูเป็นบวกกับตลาดมากขึ้น นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการไป จะทำให้นักลงทุนที่รอซื้อหุ้น กลับเข้ามาซื้อหุ้นกันตามปกติด้วย

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ บล.KTBST คาดว่า มีโอกาสที่จะเดินหน้าต่ออีกเล็กน้อย การแกว่งตัวของดัชนีฯ จะเป็นในลักษณะ sideway เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกหรือลบที่เด่นชัดเข้ามาในตลาด เป็นผลให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ตัวแปรที่จะมีผลต่อตลาดในระหว่างวันจะเป็นทิศทางค่าเงินบาท (ถ้าเงินบาทอ่อนค่ามากกว่าเงินเอเชียอื่นๆ จะเป็นลบต่อตลาดหุ้น) ราคาน้ำมันดิบในตลาด และผลการประชุมคณะรัฐมนตรี

"กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ภาพรวมของตลาดแม้เราจะคาดทิศทางดัชนีฯว่าจะสูงขึ้น แต่ด้วยแรงซื้อที่ยังมีอยู่จำกัด จึงแนะให้เลือกเพียงหุ้นเด่นของบางกลุ่มที่พอจะไปต่อได้ที่มีปัจจัยบวกหนุน มีความเสี่ยงต่ำ ในขณะที่หุ้นขนาดเล็กคาดจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง จากการเข้ามาเก็งงบไตรมาส 3  หุ้นที่ที่แนะนำวันนี้  CPALL , CENTEL , ILINK , TAE , VNG , SCI , LOXLEY มองกรอบดัชนีวันนี้ที่1,488-1,504   จุด