ราคาน้ำมันดิบปรับลดหลังค่าเงินสหรัฐฯแข็งค่า

21 ต.ค. 2559 | 02:25 น.
น้ำมันดิบปรับลด หลังค่าเงินสหรัฐฯแข็งค่า และอุปทานน้ำมันดิบจากรัสเซียปรับเพิ่ม

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 21 ตุลาคม 2559

- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงราวร้อยละ 2 หลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนเมื่อวันก่อนหน้า เนื่องจากค่าเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ส่งผลให้นักลงทุนหันไปทำกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินแทน แม้ว่าสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) จะเผยถึงปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่ปรับลดลง แต่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่ปรับเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรลยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันตลาด

- รัสเซียปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเดือน ก.ย.ของตนไปที่ 11.11 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากมีการเพิ่มกำลังการขุดเจาะน้ำมันดิบหลังราคาน้ำมันดิบดีดตัว ส่งผลให้ตลาดยังคงกังวลว่าความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) และรัสเซียที่จะการคงกำลังการผลิตหรือปรับลดกำลังการผลิตนั้นเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้ รัสเซียยังเผยว่ากำลังการผลิตในกรุงมอสโคมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีกราว 200 ล้านตันต่อปีหรือประมาณ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+ ธนาคารโลกปรับคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในปี 2560 เพิ่มขึ้น 2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศโอเปกมีแนวโน้มที่จะคงหรือปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในเวลาอันใกล้ โดยทั่วไปในช่วงปลายปีซาอุดิอาระเบียจะลดกำลังการผลิตของตนลงราว 400,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากความต้องการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศจะลดลงในช่วงหน้าหนาว อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้หลายแหล่งผลิตเพิ่มกำลังการขุดเจาะ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบไม่สามารถดีดตัวสูงได้มากนัก

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังในสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้นจากตะวันออกกลาง และปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของอินเดียที่ปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 8.1 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หลังความต้องการภายในประเทศลดลง

oil21-1 ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 48-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 49-53  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

จับตาการประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 28 – 29 ต.ค. ที่เมืองเวียนนา เพื่อหารือเกี่ยวกับเพดานปริมาณการผลิตของแต่ละประเทศในกลุ่มโอเปก และระยะเวลาในการลดกำลังการผลิต พร้อมกันนี้ กลุ่มโอเปกจะเชิญผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะมีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง หลังล่าสุดสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA)รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 14 ต.ค. ปรับตัวลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล เนื่องจากการนำเข้าจากแคนาดาที่ลดลง และคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องในสัปดาห์หน้า

อุปทานน้ำมันดิบจากไนจีเรียยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 22% จากปัจจุบัน มาแตะระดับ 2.2 ล้านบาร์เรลในปลายปีนี้ ประกอบกับ ลิเบียที่มีแนวโน้มเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่อง ยังคงส่งผลกดดันราคาน้ำมัน โดยล่าสุดการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียแตะระดับ 0.58 ล้านบาร์เรลต่อวัน อีกครั้ง หลังแหล่งน้ำมันดิบ Waha กลับมาดำเนินการได้แล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์