นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เนื่องจากมวลน้ำที่หลากมาจากทางภาคเหนือตอนล่างมีปริมาณสูงขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่เลีบลคลองชลประทาน กรมทางหลวงชนบทจึงได้ตรวจสอบการเตรียมความพร้อมของแนวคันกั้นน้ำที่อยู่บนโครงข่ายทางหลวงชนบท ตลอดจนการป้องกันในจุดที่มีความเสี่ยงที่จะมีน้ำหลาดข้ามคันกั้นน้ำ โดยเฉพาะบริเวณที่เคยเป็นจุดทรุดตัวเมื่อฤดูแล้งปีที่ผ่านมา ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี และนครปฐม ซึ่งได้สั่งการให้แขวงทางหลวงชนบทติดตามเฝ้าระวังในพื้นที่ เตรียมความพร้อมให้สามารถรับมือกับระดับน้ำที่สูงขึ้นและรายงานให้ส่วนกลางรับทราบ โดยเฉพาะคลองระพีพัฒน์ คลอง 13 และคลองพระยาบันลือ ที่ปัจจุบันมีระดับน้ำสูงมากขึ้นเป็นลำดับ
สำหรับการแก้ไขนั้น กรมทางหลวงชนบทได้แบ่งเป็น 2 ระยะ ดังนี้ การแก้ไขระยะเร่งด่วน มีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้น้ำหลากข้ามบริเวณจุดที่มีการทรุดตัว หากคาดว่าจะมีแนวโน้มทำให้เกิดน้ำท่วมข้ามคันป้องกัน กรมทางหลวงชนบทก็สามารถเข้าไปดำเนินการป้องกันเป็นการชั่วคราวได้ทันท่วงที โดยในเบื้องต้นได้นำเครื่องจักรกลเข้าดำเนินการในพื้นที่ เพื่อปรับเกลี่ยจุดที่ทรุดตัว อาทิ รถเกรด รถบด รถตัก รถน้ำ รถแบคโฮ จากสำนักงานทางหลวงชนบทและแขวงทางหลวงชนบทโดยรอบ 9 หน่วย เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ก่อน รวมถึงการปั้นคันเพื่อป้องกันน้ำท่วม โดยนำวัสดุหินคลุกกว่า 5,000 ลูกบาศก์เมตร เข้าไปเสริมยกระดับขึ้นและทำการปรับปรุงสภาพผิวการจราจรบริเวณจุดเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังน้ำเอ่อล้นตลิ่ง จำนวน 23 แห่ง ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี สระบุรี เพื่อให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวเดินทางได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
การแก้ไขในระยะยาว กรมทางหลวงชนบทได้ของบประมาณซ่อมแซมคันทางที่เกิดการทรุดตัว โดยแบ่งเป็น ระยะที่ 1 ปีงบประมาณ 2560 เป็นเงิน 232.48 ล้านบาท จำนวน 29 จุด ระยะทาง 2.673 กิโลเมตร คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2560 ระยะที่ 2 ดำเนินการของบเหลือจ่ายปี 2560 จำนวน 986.45 ล้านบาท จำนวน 59 จุด ระยะทาง 9.740 กิโลเมตร คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2560
ในเบื้องต้นขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางโปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะพื้่นที่ที่มีน้ำขึ้นสูง และโปรดสังเกตป้ายจราจรเตือนระดับน้ำหรือป้ายหลีกเลี่ยงเส้นทาง ทั้งนี้ ท่านผู้ใช้เส้นทางสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือกรุณาแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่ สายด่วนทางหลวงชนบท โทรศัพท์ 1146