อานิสงส์ข้าวจีทูจีไทย-อินโดฯ ดันราคาข้าวขาวพุ่ง 500 บาท/ตัน
อานิสงส์ข้าวจีทูจีไทย-อินโดฯ ดันราคาข้าวขาวพุ่ง 500 บาท/ตัน “โรงสี-หยง” เปิดศึกแย่งซื้อข้าวสารขาว 5% หลังผู้ส่งออกรับซื้อ ไม่อั้น
“ฐานเศรษฐกิจ” ยังติดความเคลื่อนไหวของการซื้อขายข้าวรัฐบาลจีทูจี กับ ประเทศจีน ที่ยังเหลือค้างส่งมอบอีก 2.8 แสนตัน และประเทศอินโดนีเซีย ที่เพิ่งเดินทางไปเจรจาเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่าน วงการค้าข้าว คาดว่ามีการเจรจาสำเร็จและมีการส่งมอบที่ชัดเจนแล้ว วันนี้ (11 ม.ค.67) ผู้ส่งออกแจ้งราคารับซื้อข้าวสาร 5% ราคาขยับขึ้นตันละ 500 บาท
นายสุทธิ สานกิ่งทอง นายกสมาคมค้าข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้ผู้ส่งออก แจ้งปรับราคารับซื้อข้าวสาร 5% ทำให้ราคาข้าวขยับขึ้นตันละ 500 บาท จากเดิม 21,000 บาท/ตัน ปรับเพิ่มเป็น 21,500 บาท เกิดจากความต้องการต่อเนื่องจากกลุ่มประเทศหลัก ได้แก่ อินโดนีเซีย และประเทศอิรัก ที่มีความต้องสำรองข้าวสต๊อกในประเทศเป็น 2 ประเทศหลัก ตั้งแต่ปีที่แล้ว รวมทั้งได้รับอานิสงส์จากปัจจัยอื่นๆ อีก อาทิ อินเดียหยุดส่งออก และประเทศอื่นประสบปัญหาเอลนีโญ ที่ต้องการข้าวมาสำรองไว้ในประเทศ ถือว่าเป็นโชคดีของประเทศไทย
สอดคล้องนายรังสรรค์ สบายเมือง นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่าไม่แน่ใจว่าได้อานิสงส์ตัวไหนที่ทำให้ วันนี้ ผู้ส่งออกแจ้งราคารับซื้อข้าวสาร 5% ราคาขยับขึ้นตันละ 500 บาท จู่ก็เหมือนความต้องการมาก มาขอซื้อไม่อั้น เรียกว่าถ้าใครมีข้าวก็ขอซื้อหมด วันนี้ใครมีของในมือก็ขายกัน ส่วนใครที่มีทุนเยอะหน่อยก็อาจจะรออีกหน่อย อาจจะได้เพิ่มมากกว่า 500 บาท/ตัน
“ราคาที่ขายในตอนนี้สมเหตุสมผลในราคาที่รับซื้อข้าวเปลือกเจ้า 5% (ความชื้น 15%) จากชาวนา ประมาณ 13,000 บาท/ตัน ซึ่งในตอนนั้นราคาข้าวสารผันผวน อยู่ที่ 20,000-21,000 บาท/ตัน ปัจจุบันพอปรับราคาขึ้นทำให้ราคา 21,500 บาท/ตัน ตอนนี้มีการทยอยขายเรื่อยๆ ให้กับผู้ส่งออก ได้ส่งผลลทำให้ราคาข้าวเปลือกที่จะรับซื้อข้าวจากชาวนา ก็ขยับขึ้นโดยอัตโนมัติอีกตันละ 500 บาท ทันที จากราคาโดยเฉลี่ยบวก/ลบ ตันละ 13,000 บาท ก็ปรับเพิ่มบวก/ลบ เป็น 13,300 บาท/ตัน
นายรังสรรค์ กล่าวว่า วันนี้โรงสีแย่งกันซื้อข้าว เพราะทุกคนได้รับข้าวสารเช่นเดียวกัน แต่ถ้ามีโรงไหนไหนยังยืนราคาข้าวรับซื้อเมื่อวานนี้ก็จะไม่มีใครมาขายข้าวให้ เพราะชาวนาก็ต้องนำข้าวไปขายที่โรงสีที่ปรับราคาซื้อ จากเทคโนโลยีที่มีความเร็ว ในส่วนตัวมองว่าการปรับราคาขึ้นมาในครั้งนี้ก็คาดว่าผู้ส่งออกน่าจะขายข้าวได้ราคาดีขึ้น ก็ทำให้มาซื้อข้าวสารที่แพงขึ้น เป็นห่วงโซ่ของการค้าขาย แต่ในมุมมองกลับกัน หากผู้ส่งออกแจ้งราคารับซื้อข้าวสารปรับลง ราคาข้าวเปลือกก็ลงทันทีเหมือนกัน