ครม.คลอดกฎหมาย “ลูกจ้างทำงานบ้าน” ห้ามเกิน 8 ชั่วโมง ต้องมีเวลาพัก

09 เม.ย. 2567 | 10:35 น.

ครม. ไฟเขียวร่างกฎกระทรวงแรงงานคุมการจ้างงาน “ลูกจ้างทำงานบ้าน” ให้ไม่ถูกเอาเปรียบ วันหนึ่งทำงานไม่เกิน 8 ชั่วโมง มีเวลาพัก และจ่ายค่าจ้างไม่ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (9 เม.ย. 2567) ครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงมิให้ใช้บังคับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานบางส่วนแก่นายจ้างซึ่งจ้างลูกจ้างทำงานเกี่ยวกับการงานบ้านอันมิได้มีการประกอบธุรกิจรวมอยู่ด้วย พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ

สาระสำคัญของร่างกฎหมาย โดยร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง (พ.ศ. 2541) ออกตามความในระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยกฎกระทวง ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2555) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เพื่อเพิ่มความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ให้แก่ลูกจ้างที่ทำงานบ้านอันมิได้มีการประกอบธุรกิจอยู่ด้วย ดังนี้

1. ให้นายจ้างประกาศเวลาทำงานปกติให้ลูกจ้างทราบ แต่วันหนึ่งต้องไม่เกิน 8 ชั่วโมง และเมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้วสัปดาห์หนึ่งต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมง (มาตรา 23)

2. ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีเวลาพักระหว่างการทำงานวันหนึ่งไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง (มาตรา 27 วรรคหนึ่ง)

3. ให้ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อกิจธุระอันจำเป็นได้ปีละไม่น้อยกว่า 3 วันทำงาน (มาตรา 34)

4. ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์ทำงานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึงเวลา 06.00 น. ทำงานล่วงเวลา หรือทำงานในวันหยุด (มาตรา 39/1 วรรคหนึ่ง)

5. ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงตั้งครรภ์มีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตรครรภ์หนึ่งไม่เกิน 98 วัน (มาตรา 41)

6. ห้ามมิให้นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงเพราะเหตุมีครรภ์ (มาตรา 43) 

7. ให้นายจ้างแจ้งการจ้างและแจ้งการสิ้นสุดการจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ต่อพนักงานตรวจแรงงาน (มาตรา 45 (1) (3) และวรรคสอง)

8. ให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มีสิทธิลาเพื่อเข้าประชุม สัมมนารับการอบรม รับการฝึกหรือลาเพื่อการอื่น ซึ่งจัดโดยสถานศึกษาหรือหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนและให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ปีหนึ่งต้องไม่เกิน 30 วัน (มาตรา 52)

9. ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงในวันลาเพื่อคลอดบุตรเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกิน 45 วัน (มาตรา 59)

10.ห้ามมิให้นายจ้างหักค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด เว้นแต่เป็นการหักตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 (มาตรา 36)

11.ห้ามมิให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างน้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (มาตรา 90)

นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแรงงาน ฉบับที่ 14 ที่ใช้บังคับมาตั้งแต่ปี 2555 เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการจ้างงานในปัจจุบัน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นแรงงานไทยหรือแรงงานข้ามชาติที่เป็นลูกจ้างทำงานบ้าน ซึ่งจะทำให้ลูกจ้างได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานเพิ่มขึ้น 11 ประเด็น

สำหรับกฎหมายฉบับนี้ กระทรวงแรงงานพร้อมช่วยเหลือลูกจ้างแรงงานทุกอาชีพ โดยครอบคลุมลูกจ้างทำงานบ้าน เช่น ทำความสะอาดบ้าน ซักรีดเสื้อผ้า เลี้ยงเด็กหรือผู้สูงอายุ ดูแลสวนในบ้าน รักษาความปลอดภัย ซ่อมบำรุง ขับรถ ทำอาหาร ดูแลสัตว์เลี้ยง เพื่อไม่ให้ถูกเอาเปรียบหรือใช้แรงงานเกินความจำเป็น ถือเป็นการปิดช่องว่างที่ลูกจ้างจะถูกละเมิดสิทธิ 

โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รับฟังความคิดเห็นผ่านระบบกลางทางกฎหมายแล้ว จากนี้ไปกฤษฎีกาจะตรวจสอบรายละเอียดก่อนประกาศบังคับใช้ต่อไป