เก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพู 7 ม.ค.67 หั่นค่าตั๋วลง 15% เอาใจประชาชน  

01 ม.ค. 2567 | 08:04 น.

เก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพู 7 ม.ค.67 เอาใจประชาชนหั่นค่าตั๋ง ลง 15% เหลือ13-38 บาท ส่วนสถานีศูนย์ราชการฯ-สถานีสามัคคี ยังนั่งฟรีจนกว่าแก้ไขเรียบร้อย

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางราง (ขร.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM)ผู้รับสัมปทาน หารือร่วมกัน จะขยายระยะเวลาการเปิดทดลองให้ประชาชนใช้บริการรถไฟฟ้ามหานครสายสีชมพู โดยไม่มีค่าใช้จ่ายจากเดิม 2 มกราคม 2567 เป็นวันที่ 6 มกราคม 2567

ทั้งนี้ ในวันที่ 7 มกราคม 2567 จะเริ่มเก็บค่าโดยสารตั้งแต่สถานีกรมชลประทาน (PK05) ถึง สถานีมีนบุรี (PK30) โดยยกเว้นเก็บค่าโดยสารในส่วนของสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ถึง สถานีสามัคคี (PK04) จำนวน 4 สถานีจนกว่าจะดำเนินการแก้ไขรางจ่ายไฟแล้วเสร็จ โดยระหว่างนี้จะลดอัตราค่าโดยสารลง 15% จากอัตราปกติ ซึ่งจะมีอัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 13-38 บาท เพื่อคงไว้ซึ่งประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนจะได้รับ

สำหรับการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบนั้น กระทรวงคมนาคมจะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง โดยจะแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบต่อไป ภายหลังเกิดเหตุรางจ่ายกระแสไฟฟ้า (Conductor rail) หลุดร่วงลงชั้นพื้นถนนและเกี่ยวสายไฟฟ้า บริเวณถนนติวานนท์ ระหว่างสถานีแคราย ถึง สถานีแยกปากเกร็ด เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา

 

 

 

สำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มีระยะทาง34.5กิโลเมตร 30สถานี มีจุดเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้า 6 สาย กลายเป็นทำเลทองที่อยู่อาศัยที่น่าจับตาได้แก่

1. รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม หรือรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-บางใหญ่ ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี

2. รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี

3. รถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ที่สถานีหลักสี่

4. รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่สถานวัดพระศรีมหาธาตุ

5. รถไฟฟ้าสายสีเทา ที่สถานีวัชรพล

6. รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่สถานีปลายทางอย่างสถานีมีนบุรี

ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางจากโครงข่ายหนึ่งไปยังอีกโครงข่ายหนึ่งได้อย่างสะดวก รวมถึงประหยัดเวลาในการเดินทาง รวมถึงเชื่อมส่วนต่อขยายสายสีชมพู เข้าเมืองทองธานี