"เศรษฐา" เผย "ทิม คุก" ชมศักยภาพไทย มั่นใจความร่วมมือแอปเปิลเกิดขึ้นจริง

16 ธ.ค. 2566 | 13:30 น.

"นายกฯเศรษฐา ทวีสิน" แจ้งข่าวดี บอกได้รับจดหมายขอบคุณจาก "Tim Cook ซีอีโอ Apple" ชมประเทศไทยมีศักยภาพ มีความพร้อม มั่นใจความร่วมมือกับ Apple เกิดขึ้นได้จริง

วันนี้ (16 ธ.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวทั้งทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก ระบุว่า วันนี้มีข่าวดี เนื่องจากได้รับจดหมายขอบคุณจากทาง ทิม คุก ซีอีโอ Apple พูดถึงการพบกัน เมื่อตอนเดินทางไปซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนก่อน

นายกฯเศรษฐา เปิดเผยเนื้อหาในจดหมายดังกล่าวด้วยว่า โดยใน "จดหมายเค้าระบุเลยครับ ว่าประเทศไทยมีศักยภาพ มีความพร้อม ซึ่งเมื่อร่วมกับการสนับสนุนของรัฐบาล ในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น การศึกษา อุตสาหกรรม แรงงาน ทำให้ผมมั่นใจครับว่าความร่วมมือกับ Apple เกิดขึ้นได้จริง" 

 

นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า นี่ถือเป็นอีกหนึ่งผลลัพธ์จากการออกไปสร้างความเชื่อมั่น พูดคุยแสดงความพร้อมของรัฐบาล และประชาชนไทยให้กับโลก และบริษัทยักษ์ใหญ่ได้เห็น

"ผมเชื่อมั่นครับว่านอกจาก Apple จะมีอีกหลายความร่วมมือที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมอย่างแน่นอนครับ" นายกฯ ระบุ

 

ย้อนรอยนายกฯ หารือผู้บริหารบริษัท Apple 

ฐานเศรษฐกิจ พาย้อนไปเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 66 ที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบหารือกับ ทิม คุก และผู้บริหาร บริษัท Apple ที่ ศูนย์ประชุมมอสโคนีเซ็นเตอร์ ฝั่งทิศตะวันตก นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในระหว่างการไปปฏิบัติภารกิจประชุม APEC CEO SUMMIT 2023 

\"เศรษฐา\" เผย \"ทิม คุก\" ชมศักยภาพไทย มั่นใจความร่วมมือแอปเปิลเกิดขึ้นจริง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการพบกันของนายเศรษฐากับบริษัท Apple โดยผู้บริหารบริษัทกล่าวว่า ไทยมีผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น (Application) จำนวนมาก โดยส่วนใหญ่อยู่ในระบบ ios โดยมีจำนวนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ผู้บริหารฯ ชื่นชมโครงสร้างพื้นฐานของไทย โดยบริษัทฯ มีโรงงานผลิตสินค้าของ Apple ในไทย และรู้สึกพอใจกับทั้งโครงสร้างพื้นฐาน และคุณภาพของสินค้าที่ผลิตในไทยเป็นอย่างมาก 

\"เศรษฐา\" เผย \"ทิม คุก\" ชมศักยภาพไทย มั่นใจความร่วมมือแอปเปิลเกิดขึ้นจริง

 

โอกาสนี้ ผู้บริหารฯ ได้สอบถามเกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบด้าน ทั้งการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (ease of doing business) ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) รัฐบาลดิจิทัล และพลังงานสีเขียว เป็นต้น

ซึ่งผู้บริหารบริษัทฯ กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งมั่นจะบรรลุความพยายามในการลดการปล่อยคาร์บอนลงให้ได้ภายในปี 2030 พร้อมกล่าวชื่นชมนโยบายพลังงานสีเขียวของรัฐบาลไทย ทั้งนี้ ทั้งผู้จัดหา (supplier) และผู้ผลิต (manufacturer) ของบริษัทจะต้องเดินหน้าตามแนวทางนี้ด้วย ซึ่ง นายกฯ กล่าวว่า ไทยมีไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ซึ่งถือเป็นผู้นำในภูมิภาคในเรื่องนี้ ทั้งพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานน้ำ รวมทั้งยังมีแผนที่จะทำโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อนด้วย

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายพร้อมพิจารณาศูนย์พัฒนาบุคลากรสำหรับการสร้างแอพพลิเคชั่นร่วมกัน โดย นายกฯ ได้เชิญชวนให้บริษัทมาตั้งสถาบันที่ประเทศไทย รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ความเชี่ยวชาญ และ know how ของบริษัทฯ ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าเป็นความร่วมมือที่ควรเดินหน้าโดยเร็ว โดยจะให้ทีมงานของทั้งสองฝ่ายได้หารือและแลกเปลี่ยนกัน

 

ที่มาข้อมูล : เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล