อนาคตการค้าชายแดนไทย-เมียนมา

21 เม.ย. 2567 | 21:30 น.

อนาคตการค้าชายแดนไทย-เมียนมา คอลัมน์ เมียงมอง เมียนมา โดยกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

จากสถานการณ์การสู้รบกันระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมากับกองกำลังชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงหลายฝ่ายร่วมกับกลุ่ม PDF ที่สมรภูมิเมืองเมียวดี ในช่วงที่กำลังดุเดือดเลือดพล่านอยู่นี้ ทำให้ส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ พวกเราชาวกลุ่มคนค้าชายแดนก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ เราไม่เข้าข้างไหนทั้งนั้น เพราะไม่ว่าผลจะลงเอยอย่างไร ล้วนแล้วแต่ไม่เป็นผลดีต่อการค้าระหว่างประเทศระหว่างไทย-เมียนมาอยู่ดี

ทั้งๆ ที่ด่านนี้เป็นด่านที่ไม่น่าจะให้เกิดปัญหาการสู้รบกันเลย เหตุผลเพราะด่านนี้เป็นเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจของเมียนมาแท้ๆ แต่ก็เกิดขึ้นจนได้ หลายคนที่สอบถามผมมา ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร? ผมเองก็ตอบไม่ได้ว่าสรุปแล้วจะจบลงอย่างไรครับ แต่อยากจะวิเคราะห์ให้เห็นภาพว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป แล้วอะไรจะเกิดผลตามหลังมาครับ

ปัญหาที่ปะทุครั้งนี้ อันที่จริงก็เริ่มส่อเค้ามาตั้งนานหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ช่วงยุทธการ 1027 ที่พันธมิตรสามฝ่ายอันประกอบด้วย กองกำลังโกก้าง (MNDAA) กองกำลังอาระกัน (AA) และกองทัพปลดปล่อยแห่งชนชาติตะอาง(TNLA) ได้มีการปฎิบัติการโจมตีทหารรัฐบาลเมียนมา ทางด้านเหนือของรัฐฉานเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว

ทางด้านกลุ่มกองกำลังกะเหรี่ยงหลายฝ่าย ก็ได้เริ่มเข้ามาปฎิบัติการบ้างแล้ว ด้วยการซุ่มโจมตีในด้านชายแดนฝั่งเมืองเมียวดีหลายต่อหลายครั้ง ที่หนักๆ ก็มีการเผารถขนส่งสินค้า การระเบิดสะพานขาด ทำให้การค้ามีการชะงักไปช่วงหนึ่ง แต่พวกเราชาวกลุ่มพ่อค้าชายแดน ต่างต้องหาช่องทางในการดำเนินธุรกิจต่อ ด้วยการหลีกเลี่ยงเส้นทางการขนส่ง ทำให้การค้าแม้จะไม่ได้สะดวกสบายเหมือนเดิม แต่ยังพอทำเนาไปได้ครับ

จนกระทั่งมาเข้าสู่เดือนเมษายน ในช่วงวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีกองกำลังกะเหรี่ยงหลายฝ่ายและ PDF ได้เริ่มบุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นของทหารเมียนมาที่ค่ายทหารกองพันที่ 375 ซึ่งเหนือความคาดหมายมาก อีกทั้งสร้างความวิตกกังวลใจให้แก่พวกเรามาก เพราะนั่นอาจจะนำมาซึ่งความไม่สงบในพื้นที่การค้าชายแดนไทย-เมียนมาได้

ต่อมาวันที่ 9 เมษายน ก็ได้เริ่มทำการโอบตีค่ายทหารกองพันที่ 275 อีก ซึ่งค่ายนี้อยู่ในใจกลางเมืองเมียวดี ใช้เวลาแค่เพียงคืนเดียวค่ายก็แตก ทหารฝ่ายรัฐบาลในค่ายดังกล่าวร้อยกว่านาย ได้หลบหนีมาตั้งบังเกอร์ที่ใต้สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างจากค่าย 275 เพียงสองกิโลเมตร ยิ่งทำให้พวกเราต่างหนักใจกันเป็นอย่างยิ่ง เพราะเกรงว่าจะส่งผลมายังการค้าชายแดน ที่จะต้องขนส่งสินค้าผ่านทางสะพานแห่งนี้อยู่ และแล้วก็ไม่เหนือความคาดหมาย เช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ 20 เมษายน การโจมตีกลับของฝ่ายรัฐบาลก็ได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งณ เวลาที่ผมกำลังเขียนบทความนี้อยู่ ก็ยังไม่ทราบว่าผลจะลงเอยอย่างไร? แต่ที่แน่นอนชาวบ้านชาวเมียวดี ได้เริ่มหลั่งไหลอพยพเข้าสู่อำเภอแม่สอดหลายพันคน  ซึ่งแน่นอนว่างานนี้หนังชีวิตอีกแล้วครับท่าน

ส่วนที่จะต้องกังวลใจอย่างมากหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ นั่นคือการค้าชายแดนที่จะต้องรับผลกระทบอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ ซึ่งก็เชื่อว่าต้องหนักหนาสาหัสอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามก็ขอเพียงอย่าให้สูญเสียชีวิตของประชาชนตาดำๆ เลยนะครับ ผมอยากจะให้มองทางด้านการค้าเป็นเรื่องรอง เรื่องชีวิตและทรัพย์สินซึ่งแม้จะไม่ใช่ของผู้ประกอบการชาวไทย เราก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะผลกระทบที่จะตามมา แน่นอนว่ารัฐบาลไทยเราต้องมีส่วนในการรับภาระอย่างไม่สามารถปฎิเสธได้ครับ

ทางด้านการค้าชายแดนในช่วงนี้ แน่นอนว่าเราคงต้องหาช่องทางอื่นๆ ที่เป็นด่านชายแดน นอกเหนือจากด่านแม่สอด เพื่อมาช่วยผ่อนเบาความเดือดร้อนไปพลางๆ ก่อน ด่านที่จะเป็นที่ผ่อนปรนความเดือดร้อนที่สำคัญ ก็มีด่านระนอง-เกาะสอง ที่ยังสามารถส่งสินค้าไปทางเรือริมชายฝั่ง ที่มีระวางขับน้ำไม่เกิน 2,000 ตัน มาช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ จนกว่าจะถึงฤดูกาลมรสุม รอจนถึงหลังจากที่เข้าสู่ฤดูมรสุม ค่อยดูสถานการณ์อีกครั้งต่อไป

ด่านที่สอง คือด่านบ้านพุน้ำร้อน-ทิกิ ช่องนี้เป็นช่องทางใหม่ที่พอจะเป็นไปได้ แต่การบรรทุกของรถอาจจะไม่ใช่รถขนาดใหญ่ เหมือนเช่นที่ใช้ขนส่งทางเมืองเมียวดี-กรุงย่างกุ้ง เพราะถนนนี้เป็นถนนของเอกชนไม่ใช่ถนนหลวง อีกช่องทางหนึ่งคือด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก เส้นทางนี้ผมเคยใช้อยู่เป็นประจำ เพราะผมเริ่มทำการค้าก็อาศัยช่องทางนี้แหละครับ ส่วนช่องทางที่เหลือก็เป็นทางเรือเดินสมุทร ที่ออกจากท่าเรือแหลมฉบังเท่านั้นแหละครับ

อาจจะมีคำถามว่าแล้วด่านแม่สอด-เมียวดีจะกลับมาสู่ปกติอีกหรือไม่? โดยส่วนตัวผมคิดว่า กลับมานะ กลับมาแน่ แต่จะเป็นเมื่อไหร่ไม่มีใครรู้หรอกครับ แต่ที่แน่ๆ สงครามกลางเมืองยังไม่จบง่ายๆ แน่นอน ส่วนสมรภูมิรบในอนาคตต่อไปจะเป็นที่ไหน? ก็เป็นคำถามที่ตอบยากมาก ต้องดูเป็นวันต่อวันเลยครับ

ใครก็ตามที่คิดว่า การค้าจะกลับมาเหมือนเดิม ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศอีกไม่นานก็จะเป็นปกติ ผมก็คิดว่าท่านอาจจะมองโลกในแง่ดีเกินไปแล้ว ท่านอาจจะไม่รู้ว่าคนเมียนมาเขาคิดไม่เหมือนเราหรอกครับ การถอยทัพของทหารรัฐบาลเมียนมาจากค่าย 275 ที่ไปนอนรอที่สะพานมิตรภาพ 2 ผมก็พยายามสื่อไปยังผู้มีอำนาจทั้งหลายว่า นั่นเป็นการขุดบ่อล่อปลาหรือเปล่า? แต่ก็ไม่มีคนรับฟัง จนกระทั่งตูมตามกันในเช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ผ่านมา และฉากทัศน์ต่อไปผมก็ชี้ไปที่ชเว โก๊ก กู่ เมืองกาสิโนใหญ่ทางฝั่งเมืองเมียวดีแน่นอน สงครามยังไม่จบง่ายๆ หรอกครับ