ลูกผู้ชาย ควรมีรถ 4 คัน?

24 ก.พ. 2567 | 04:23 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ก.พ. 2567 | 04:30 น.

ลูกผู้ชาย ควรมีรถ 4 คัน? คอลัมน์ Cat out of the box โดย พีรภัทร์ เกียรติภิญโญ

วีคก่อนนี้ขึ้นไปเวียงเชียงใหม่ ก็ให้บังเอิญว่าไปได้รถเก่ามาคันหนึ่งอายุจะราวสามสิบปีเห็นจะได้ เปนผลงานท้ายๆของการบุกเบิกวิศวสร้างจากสวีเดน ซึ่งปัจจุบันเลิกสายการผลิตเสียแล้ว นั่นก็คือรถซ้าบ900S ของเศรษฐินีมีสกุลท่านหนึ่งใช้มามือเดียว เวลานี้ท่านล่วงวัยเข้าเขตแดนชรา ถึงเวลาสมบัติต้องผลัดกันชม
 
อันว่ารถซ้าบนี้ จุดโฆษณาเขามีว่า แกเปนบริษัทผลิตเครื่องบินอากาศ และเครื่องยนต์เครื่องบินมาเก่าแก่ ถึงเวลาอยากทำรถยนต์วิ่งบนบกบ้างก็ใช้หลักคิดอย่างคนนักบินเอามาทำ ผู้คนก็ว่าหน้าตาประหลาดนัก สวยก็ไม่กล้าพูด โฉบเฉี่ยวก็อึกอักจะประกาศ เอาเปนว่ามีความงามลึกลับอย่างประหลาดก็แล้วกัน55 งานนี้ฝ่ายนักปักษีวิทยาคงว่าคล้ายหัวนกกระสา ในขณะที่นักอากาศยานว่าคล้ายหัวเครื่องบินคองคอร์ด (เขียนกำนัลท่านไว้แล้วในตอน ปีศาจความเร็วเหนือเสียง) สรรพคุณรถซ้าบนี้มีอย่างไร ก็ขออนุญาตว่ามีโอกาสจะรวบเปนตอนต่างหากอีกสักที ด้วยคราวนี้ขับลงมาซ่อมรักษาถึงกรุงเทพ ได้ความรู้เรื่องคลาสสิกในยุทธการนำเข้ารถอากาศยานนี้จากคนเก่าคนแก่อีกมากเปนเรื่องสนุกน่าบันทึกเอาไว้

สำหรับวันนี้นั้นเนื่องจากว่าคุณผู้อ่านหลายท่านกรุณาถามไถ่ ว่าหลังมานี้เปนยังไงชอบจะไปหาซื้อรถเก่าๆมาซ่อมใช้ทั้งที่ก็เห็นว่าหยุดเขียนเรื่องรถไปนานสองปี มาบัดนี้ก็จะขออนุญาตเล่าแรงบันดาลใจในการใช้รถเก่าให้ท่านทราบกันเพลินๆ อาจจะเรียกว่าวิชาเศรษฐีก็ได้ เพราะท่านผู้สอนบอกกล่าวแต่ต้นทางท่านเปนมหาเศรษฐีจริงๆ มีชีวิตอยู่บนดอยและในเวียงเชียงใหม่ เปนมหาเศรษฐีแองโกลแซกซอนล้านนานามว่า ท่านเซอร์ อลัน เจมส์ เทลเฟอร์ ผู้ล่วงลับ
 
พูดถึงว่าเรื่อง man & machine นั้น เซอร์อลัน ฯ ซึ่งเปน motorist คนสำคัญ ท่านกล่าวมาตามลมในวันที่ริชาร์ด เคลเดอแมน รับเชิญมาบรรเลงเปียโนดินเนอร์บนยอดตึกเพนท์เฮ้าส์หลังคาหมวกเขียวริมน้ำเจ้าพระยาออกแบบโดยสถาปนิกราชตระกูลเปรื่องปราชญ์
 
“A man should have at least 4 cars in his life.” 
 
ท่านอรรถาธิบาย One for business, One for rough, One for party, One for Sunday, อย่างไร?


 
One for business
 

ช่างเสื้อตัดเสื้อหรูหราขายลูกค้าไม่ใส่เสื้อนั้น ฉันใด คนไทยเกลียดคนขายที่สูงส่งกว่าตัวฉันนั้น เวลาเรานักธุรกิจพ่อค้าไปขายของ ถ้าว่าอวดโอ่โชว์เชย ทำกระด้างทำหรู รู้ดีเย่อหยิ่ง_อย่าหวังได้งาน คนสุภาพถ่อมตนรวยไม่อวดรวยเปนลักษณะพ่อค้าที่ถูกต้อง_เสมอ และทุกคราว
 
รถใช้ไปทำธุรกิจวันต่อวัน ท่านเลือกใช้โตโยต้า เซนจูรี่ ตัวท็อป ออฟ เดอะ ฟลีท ซึ่งได้รับเกียรติให้เปนรถพระที่นั่งทรงสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่น รูปร่างหน้าตาคงที่ไม่มีสัญลักษณ์สามห่วง บ่งชาติสามัญแต่ใช้ตรานยูงบ่งความพิเศษ extraordinary สุขุมไม่โฉบเฉี่ยว แรงรื่นแต่เงียบกริบด้วยฝากระโปรงบุทองแดงกันเสียง องอาจมาดผู้ดีสยบกร่างรถธงเล็กซัสได้ทันควัน ช่างเปนรถที่โอ่อ่าแต่เสงี่ยมโสรัจจ์

One for rough
 
ในวัน_เวลาขรุขระของชีวิตพาหนะใดเล่าจักฝ่าฟันพาชีวิตมีค่ารอดพ้นภัยพาสถานการณ์ คนระดับมหาเศรษฐีแต่เปนที่เข้าไปทำงานการเมืองวันนั้นในพาหนะ บีเอ็มดับบลิว ซีรี่ส์เจ็ด ประจำตำแหน่งสีดำ ถูกลากถูลู่ถูกังจากมิคสัญญีคราวเสื้อแดงบุกกระทรวงคลองหลอดออกจากตัวรถ ทุบซ้อมป่าเถื่อนเจ็บหนักถึงขั้นซี่โครงหัก ปากเลือด
 
ขณะที่ บุรุษหลายสมรภูมิในที่ รมต.กลาโหม เวลานั้น กุมกอดปืนพกประจำตัว .45 ตราโคลท์ ประจุกระสุนเต็มอัตรา 9 นัด เร้นกายอยู่ในห้องมั่นคง panic room ใต้ถุนกระทรวง_หัวใจเต้นฉูด ระหว่างที่นักล่าปล่อยการ์ดออกรุมการค้นหา (หาแบบไม่มีแบบแปลนอาคาร-มันจะไปเจออะไร) คนไทยฆ่ากันเอง!
 
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ครานั้นบารมีถึงที่นายกรัฐมนตรีซุ่มหาทางออกจากแดนสังหารด้วย เมอร์ซิเดสเอส-special คลาส w222 สีดำ เครื่องหก-แปดลิตรกันกระสุน ฝูงเพชฌฆาต หงุดหงิด ทำอะไรไม่ได้ แต่อาศัยว่ามีตรรกะ รู้ว่ารถวิ่งได้ด้วยหม้อน้ำหล่อเย็น บรรจงเอาทวนคมดัดแปลงจากเสาธงแทง เข้ากระจังหน้าหวังว่าหม้อน้ำจะทะลุ รถก็ต้องจอดตาย เดชะบุญคนขับประคองสติหักพวงมาลัยฝ่าด่านระยำระทึกขวัญออกไปได้ด้วยการปีนฟุตพาธ บาทวิถีหนีออกมาทุลักทุเล
 
หลังวันนั้น เห็นหนึ่งในผู้ร่วมชะตา หาซื้อ โตโยต้า เอ็ม เมกะครุยเซอร์ รถตะลุยทุกสถานการณ์มาประดับชีวิตมากกว่าประดับบารมี
 
ท่านเซอร์อลันฯมองเห็นการณ์อย่างนี้ตั้งแต่ปี 90 รถพาหนะอย่างพาเศรษฐีอังกฤษ ลุยป่าฝาดงนั้นต้องยกให้ตระกูลแลนด์โรเวอร์ ผู้ถือปรัชญา หน้าตาไม่สมาร์ทแต่พิฆาตสถานการณ์อยู่หมัด ทว่าการดำรงชีพอยู่ในอาเชียการซ่อมบำรุงให้ได้มาตรฐานผู้ดี อาจมีปัญหา ท่านว่าอีซูสุดีที่สุด ถึกทน ไม่ต้องดูแลบำรุง เหมือนในแอฟฟริกาซึ่งเมอร์ซิเดส เจตนาผลิตเครื่องยนต์ดีเซล ห้าสูบในนาม 240D บรรจุใส่รถระดับ อี-คลาส ทุกรูปโฉม เพื่อสนองความขาดแคลนฝีมือบริการอย่างที่เรียกว่า 40-50 ปี ไม่ต้องซ่อม
 
แล้วเราก็เห็น อีซูสุ ทรูปเปอร์ รถตรวจการณ์เครื่องดีเซล รุ่นพิเศษที่เรียกว่า Big Horn นำเข้า มาปรากฏในโรงรถ 1 ในสามโรง ณ คฤหาสน์น้ำปิง แขวงเมืองเชียงใหม่ เปนการประจำการเพื่อวัน_เวลาขรุขระของชีวิต พอๆกันกับวันที่ชีวิตราบรื่นต้องการรสชาติขรุขระมาจรรโลงเสียบ้าง


 
นอกจากนี้ท่านผู้นี้ยังได้เปิดประสบการณ์คราวที่คิดตรองดูแล้วรถหุ้มเกราะอาจจำเปน โดยการเชิญหัวหน้าฝ่ายขายของบาวาเรียน มอร์เตอร์เวิร์ค BMW มาที่สำนักงานด้วยหวังใจจะได้รถธงสักคันหนึ่งทำกันกระสุน จากที่ศึกษาไว้ รถนี้มียางตัน โดนกับดักเจาะยางเข้าไปยังวิ่งได้ไร้ปัญหา จะยิงถล่มก็ทนได้ไม่แตกกระจก ถ้าจะโดนระเบิดก็ โน่นใต้ท้องรถหุ้มเกราะไว้ แถมมีช่องกันแก๊สพิษอีกตะหาก ยามจวนตัวกดปุ่มปั้บ กระจกหน้าจะเด้งออกกวาดทางให้หนีออกจากตัวรถได้ สตางค์นั้นไม่ใช่ปัญหา แต่การสอบประวัติผู้ซื้อและขั้นตอนอนุมัติการขายให้บุคคลธรรมดาที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐนั้นเยอรมันขอปฏิเสธ!

ส่วน One for party นั้น
 
การออกงานในชีวิตของเศรษฐี ผู้ดีเศรษฐาก็เปนเรื่องจำเปน ด้วยว่าเศรษฐีนั้นเขาไม่สั่งสมเพื่อตนถ่ายเดียว หากแจกจ่ายส่วนที่มีมากออกเจือให้สังคมแวดล้อม ตำแหน่งเศรษฐีในสังคมนั้น ในอินเดียอนุทวีปต้องมีตราตั้ง และหน้าที่ไม่ใช่เพียงหาเงินมามั่งคั่งแก่ตน แต่ต้องหนุนและหมุนส่งความมั่งคั่งแก่สังคมแลประเทศด้วย ไม่งั้นแล้วเปนแต่มิลเลียนแนร์-เศรษฐี ไม่เปนฟิแลนโทรฟิสท์-ผู้ดีเศรษฐา-เจริญที่สุด
 
การไม่ออกงานมัวแต่เก็บตัวนั้น ก็เหมือนคนพุทธปฏิเสธซองกฐินและผ้าป่า ขี้เหนียวมาก มักไม่ใช่เศรษฐีรวยแต่เงินไม่รวยน้ำใจนั้นไม่ต่างอะไรกับขี้ครอก สะสมและสะสม ไม่ได้แบ่งปันสรรสร้าง โดยเฉพาะการอุปถัมภ์ค้ำชูงานศิลปะ จ่ายแพงๆให้คนทำงานศิลปเลี้ยงตนได้ผลิตงานงามงดสู่โลกจรรโลงคนสังคมต่อไปในแบบเดียวกับการอุปถัมภ์ค้ำชูกิจการพระศาสนา สร้างวัดสร้างโบสถ์ เปนแม่งานเลี้ยงพระสังคายนาพระไตรปิฎก ใจต้องกว้างอนึ่งเรื่องพรรค์นี้เขียนเล่าไว้แล้วใน ตอน ‘เศรษฐีทั้งห้า’
 
อีกอนึ่ง คือในสายตาคนยากนั้นหมิ่นหยาม_หากว่าเศรษฐาเศรษฐีไม่มีการออกงาน ด้วยนิยามข้ามแคะว่า หายรวยแล้วมั้งบ้าง ป่วยมั้งบ้าง กิจการแย่แล้วมั้งบ้าง ตามประสาคนกินความยากเปนของคาว และกินความจนเปนของหวาน การณ์จะเมนเทนรักษาสถานภาพเศรษฐีก็มีภารกิจรักษาภาพลักษณ์ อยู่ประการหนึ่งคือไปปาร์ตี้กันเสียให้มันหรูเฟ่ โดยเฉพาะงานการกุศลกาล่าดินเนอร์ นั่งโต๊ะปูผ้าขาวรีดกริบเหล้าไวน์ได้ดาวอย่างไม่อั้น กับข้าวอย่างไก่ฟ้ารึไม่ก็กวางดาว แวนิชัน
 
ตานี้จะไปอย่างไร? ให้มันไม่เสร่อไม่ถูกต้องเปนที่ติฉินนินทาของเหล่ามหาเศรษฐีผู้อาวุโสและมาก่อน ประดาเครื่องแต่งกายที่ถูกต้องประเภททักซิโด้จะข้ามไปเล่าทีหลัง เนื่องเพราะเกินสโคปขอบเขตของวันนี้
 
พาหนะสิสำคัญอะไรจะพาเศรษฐีผู้ดีเศรษฐาในเครื่องแต่งกายที่ถูกต้องไปงานกุศลหรูเฟ่อย่างว่า มีอณูละอองทองเพชรลอยอยู่ในอากาศ
 
..เบนท์ลี่ย์ (ไม่ใช่เบนท์เล่) เปนทางเลือกหรูหราแต่ไม่โก้หร่านเปนของเสงี่ยม ไม่โฉ่งฉ่าง
 
ทำไม? ก็แต่ไหนแต่ไรมา เบนท์ลี่เปนของอย่างเดียวกันกับโรลสรอยช์ ทุกประการตั้งแต่เครื่องยนต์ไปยันตัวถัง ต่างกันอยู่แต่กระจัง หน้าไม่มีเทพีลู่ลม มายืนประติมากรรมโชยพลิ้ว ทั้งก้านกระจังใบหน้าลูกตารถก็สุภาพอ่อนโยนกว่า คล้ายทหารแต่งเครื่องแบบติดเหรียญตราเพียงมินนิมอล ไม่ต้องแขวนสายสะพายตราตั้งครบสูตร ทั้งที่มีเท่ากันแต่สงวนไว้ให้ชื่นเชยแก่ตัวของพรรค์นี้เปนรหัสนัยแก่คนเสงี่ยมในวิทยาคุณพอกันเท่านั้น คนภูมิไม่เท่าก็เอะอะมะเทิ่ง
ค่อนขอดกันต่อไปว่ามีน้อยชะรอยจะกระจอกหารู้ไม่ว่าวันที่กดคันเร่งแข่งกัน ขี้คร้านตัวเองจะรู้ซึ้งคำว่าไม่เห็นฝุ่น
 
คนเปนเสือชีต้า จะให้วิ่งแข่งกับหมาเรื่อยไป คงไม่เหมาะรถคันนั้นของ มร. เทลเฟอร์ คือ เบนท์ลี่ย์ อาร์ซุร์ สองประตูและเปิดประทุนได้ สีเขียวหัวเป็ดแทรกเกล็ด โลหะเมทัลลิคมลังเมลืองวิบวับ     (ต่อตอน 2)