ผุด สนง.ใหญ่ 'วัตสันไอโอที' พัฒนาอินเตอร์เน็ตออฟธิงส์

27 ก.พ. 2560 | 10:00 น.
ไอบีเอ็ม ทุ่ม 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี “ไอโอที” เต็มสูบ ล่าสุด เปิดสำนักงานใหญ่วัตสันไอโอที พร้อมประกาศผนึกวีซ่าเตรียมเปิดประสบการณ์การชำระเงินอย่างปลอดภัยผ่านอินเตอร์เน็ตอ็อฟธิงส์ (ไอโอที) เป็นครั้งแรก

นายกิตติพงษ์ อัศวพิชยนต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจซอฟต์แวร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เปิดเ(ผยว่าไอบีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น ได้เปิดสำนักงานใหญ่ วัตสัน ไอโอที ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน เพื่อผลักดันนวัตกรรมอินเตอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง หรือ อินเตอร์เน็ตอ็อฟธิงส์ (ไอโอที) ร่วมกับพันธมิตร และลูกค้าของไอบีเอ็ม โดยที่ผ่านมาได้เริ่มมีความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำแล้ว อาทิ บีเอ็มดับบลิว โคเน่ ฮอนด้า เวิร์ลพูล ซีเมนส์ และกำลังร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมไอโอทีแห่งอนาคตกับธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์ แคปเจมิไน เทค มหินทรา บ๊อช ริโก้ บริษัททางรถไฟแห่งชาติฝรั่งเศส ทั้งนี้สำนักงานดังกล่าวจะมีผู้เชี่ยวชาญไอบีเอ็มกว่า 1,000 คน มีมูลค่าการลงทุน 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 2.52 แสนล้านบาท (คิดที่ 36 บาท ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ)

“อินเตอร์เน็ตอ็อฟธิงส์กำลังเปลี่ยนโลกรอบๆ ตัวเรา ทั้งในแง่ของการเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจต่างๆ และการเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้บริการทุกคน แม้กระทั่งการทำให้เครื่องซักผ้าสามารถสั่งซื้อผงซักฟอกเองได้ การผนึกเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตอ็อฟธิงส์ของไอบีเอ็มเข้ากับบริการการชำระเงินของวีซ่า กำลังนำสู่ก้าวย่างสำคัญที่จะเอื้อให้การทำธุรกรรมสามารถเกิดขึ้นได้โดยผ่านอุปกรณ์ใดก็ตามที่เชื่อมต่อกัน นำสู่มิติใหม่ของความง่าย สะดวก และปลอดภัย”

นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังประกาศจับมือวีซ่าเพื่อผสานเทคโนโลยีค็อกนิทีฟและแพลตฟอร์มวัตสันไอโอทีของไอบีเอ็ม เข้ากับระบบชำระเงินระดับโลกของวีซ่าที่ปัจจุบันอยู่เบื้องหลังการใช้จ่ายกว่า 60% ทั่วโลก โดยวัตสันไอโอทีจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเชื่อมต่อและถอดรหัสมุมมองเชิงลึกจากอุปกรณ์และเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่คาดว่าจะมีจำนวนถึง 2 หมื่นล้านชิ้นทั่วโลกในปี 2563

“ความร่วมมือในการนำไอโอทีมาใช้ในด้านคอมเมิร์ซครั้งนี้จะส่งผลให้อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา แหวน เครื่องใช้ต่างๆ หรือแม้แต่รถยนต์ สามารถชำระเงินในส่วนที่ผู้ใช้อนุญาตให้ดำเนินการแทนได้ ตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคสามารถเช่ารถ จากนั้นระบบจะดึงข้อมูลปริมาณการใช้งานรถในแต่ละวันพร้อมดำเนินการชำระเงินโดยอัตโนมัติ”

โดยความร่วมมือดังกล่าวยังส่งผลให้บริษัทต่างๆ สามารถเข้าถึง Visa Token Service ได้ผ่านแพลตฟอร์มวัตสันไอโอที โดย Visa Token Service เป็นเทคโนโลยีระบุตัวตนดิจิตอลที่มีความปลอดภัยสูง ช่วยให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเผยรายละเอียดของบัญชี เลขหน้าบัตร 16 หลัก วันหมดอายุ หรือเลขท้ายบัตรเครดิตอย่างในปัจจุบัน และช่วยให้องค์กรสามารถผนวกรวมระบบจ่ายเงินดิจิตอลที่ปลอดภัยและใช้งานง่ายเข้ากับทุกผลิตภัณฑ์ สนับสนุนการชำระเงินและการซื้อขายผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันแบบทุกที่ทุกเวลา